World News

‘ราคาน้ำมัน WTI’ ลดแค่ 47 เซนต์ กังวล ‘จีน’ ชะลอนำเข้าน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ลดลงเล็กน้อย หลังจีนเปิดเผยยอดนำเข้าน้ำมันดิบชะลอตัวลง 

ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 84.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเดียวกัน ราคาลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากสำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบ 9.79 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ย. ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันลดการนำเข้า ท่ามกลางอุปสงค์ที่ซบเซาในตลาด

นักวิเคราะห์จากบริษัทไอเอ็นจีกล่าวว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์และวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน กำลังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าทางการจีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2565 ที่ดีเกินคาดก็ตาม

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2565 ขยายตัว 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวราว 3.3%-3.4%

อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่าเฟดจะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.3 ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 49.5 ในเดือนกันยายน

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การชะลอตัวของดัชนีภาคธุรกิจอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาเพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้นอาจได้ผล และอาจจะทำให้เฟดชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นความต้องการใช้พลังงาน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo