นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษนิยมในวันนี้ (20 ต.ค.) หลังอยู่ในตำแหน่ง เพียง 45 วัน ส่งผลให้เธอพ้นพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยอัตโนมัติ และกลายเป็นผู้นำที่มีวาระดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ระหว่างการแถลงหน้าบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง นางทรัสส์ กล่าวว่า เธอตระหนักว่า เธอไม่สามารถส่งผ่านสิ่งที่ได้รับมอบอำนาจมาจาก พรรคอนุรักษนิยม ที่เลือกเธอเข้ามารับตำแหน่งนี้ได้ และเธอได้พบกับเซอร์ เกรแฮม เบรดี้ ประธานคณะกรรมาธิการของพรรค โดยตกลงกันว่า จะมีการเลือกตั้งผู้นำอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
เธอบอกด้วยว่า เข้ามารับตำแหน่งในภาวะที่ประเทศ “เผชิญกับความไร้เสถียรภาพครั้งใหญ่ทางเศรษฐกิจและการต่างประเทศ” และ เธอได้รับเลือกจากพรรคให้เข้ามา “เปลี่ยนแปลงเรื่องนี้”
รัฐบาลของเธอได้แก้ปัญหาราคาพลังงาน และลดเงินนำส่งประกันสังคม และมีแผนการที่จะสร้าง “อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงด้วยการเก็บภาษีต่ำ” แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน “ดิฉันไม่สามารถทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้”
“เพื่อให้มั่นใจว่า เรายังคงเดินหน้าส่งผลแผนการคลังและดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศต่อไป ดิฉันยังจะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีกระทั่งมีการเลือกผู้นำคนใหม่ทดแทน” นางทรัสส์ ระบุ
การประกาศลาออกดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางมรสุมทางการเมืองในอังกฤษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางทรัสส์ได้กล่าวขอโทษสำหรับความผิดพลาดในการประกาศมาตรการแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ปรับลดภาษีวงเงิน 45,000 ล้านปอนด์ ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
นางทรัสส์เผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว หลังจากนายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ประกาศต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าจะยกเลิกแผนการตัดลดภาษีแทบทั้งหมดของนางทรัสส์ ที่บรรจุอยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ที่เรียกว่า “งบประมาณแผ่นดินฉบับย่อ” (mini-budget)
การที่รัฐบาลประกาศงบประมาณแผ่นดินฉบับย่อเมื่อ 23 กันยายนที่ผ่านมา โดยที่ไม่มีรายละเอียดว่า จะนำเงินจากไหนมาใช้สำหรับแผนนี้ ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ผันผวนร่วงต่ำเป็นประวัติการณ์ก่อนดีดตัวขึ้น อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านพุ่งพรวด ราคาพันธบัตรรัฐบาลทรุดหนัก จนธนาคารกลางต้องเข้ามาแทรกแซง
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นายกวาซี กวาร์เต็ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น ซึ่งเป็นคนสนิทของนางทรัสส์ ถูกปลดจากตำแหน่ง หลังอยู่ในตำแหน่งเพียง 38 วัน
การตัดสินใจของนายฮันต์สร้างความยินดีให้แก่บรรดานักลงทุน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการฉีกแผนดำเนินงานทางเศรษฐกิจของนางทรัสส์จนไม่เหลือชิ้นดี และมีกระแสเรียกร้องให้เธอลาออกจากตำแหน่ง หลังจากเข้าบริหารประเทศเพียงไม่กี่สัปดาห์
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น ขานรับข่าวการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ของนาทรัสส์ โดยนับถึงเวลา 20.10 น.ตามเวลาไทย เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นมา 0.44% มาอยู่ที่ระดับ 1.126 ดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รู้จักนายกฯ ใหม่อังกฤษ ‘ลิซ ทรัสส์’ จากนักการเมืองฝ่ายซ้าย สู่ผู้นำอนุรักษนิยม
- ตามคาด! ‘ลิซ ทรัสส์’ ผงาด นายกฯ ใหม่ อังกฤษ
- ‘บอริส จอห์นสัน’ ลาออก ‘นายกฯ อังกฤษ’ จับตา! ‘รมว.กลาโหม’ ตัวเก็งขึ้นแทนที่
