นายกฯ ใหม่อังกฤษ “ลิซ ทรัสส์” รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ หลังจากชนะเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมรอบสุดท้าย เป็นนักการเมืองที่เส้นทางชีวิตเต็มไปด้วยความพลิกผัน
“แมรี เอลิซาเบธ ทรัสส์” วัย 47 ปี เกิดในครอบครัวที่เธอระบุว่า “เป็นฝ่ายซ้าย” มารดาเป็นพยาบาล และครู บิดาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ เคยพาเธอไปเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านนายกรัฐมนตรีมากาเร็ต แทตเชอร์ ของพรรคอนุรักษนิยม
เธอเคยสวมบทเป็นแทตเชอร์ในการเลือกตั้งจำลอง ที่โรงเรียนจัดขึ้นพร้อมกับที่มีการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2526 ซึ่งทรัสส์ ที่มีอายุ 7 ขวบในขณะนั้น ไม่ได้เลยแม้แต่คะแนนเดียว ขณะที่แทตเชอร์กวาดคะแนนอย่างถล่มทลาย
ทรัสส์ เล่าในภายหลังว่า ตั้งใจอย่างเต็มที่และปราศรัยหาเสียงอย่างจับใจ แต่ไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียว เพราะไม่ได้ลงคะแนนให้ตัวเอง
อย่างไรก็ดี เมื่อเข้าสู่เส้นทางทางการเมืองจริง ๆ ทรัสส์ได้ยกย่องให้แทตเชอร์เป็น “ต้นแบบทางการเมือง” ซึ่งเธอก็ประสบความสำเร็จ ในการเดินตามรอย แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2522-2533 ด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ ต่อจากนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ที่ดำรงตำแหน่งปี 2559-2562
ทรัสส์เคยวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ในช่วงที่เป็นสมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตย ในมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เธอพูดในการประชุมพรรคในปี 2537 สนับสนุนให้ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ว่า สมาชิกพรรคนี้เชื่อเรื่องโอกาสควรเป็นของทุกคน ไม่เชื่อเรื่องการเกิดมาเป็นผู้ปกครอง
นายกฯ ใหม่อังกฤษ จากนักการเมืองฝ่ายซ้าย สู่ผู้นำอนุรักษนิยม
อย่างไรก็ดี เธอเปลี่ยนแนวทางไปเป็นสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมเมื่อสำเร็จการศึกษาในปี 2539 เข้าสู่แวดวงการเมืองจนกระทั่งชนะเลือกตั้ง ส.ส. สมัยแรกในปี 2553 ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลนายกรัฐมนตรีหลายคน ไล่ตั้งแต่เดวิด คาเมรอน เทเรซา เมย์ และบอริส จอห์นสัน โดยได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564
ทรัสส์ตัดสินใจลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม หลังจากบอริส จอห์นสัน ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเธอเป็น 1 ใน ผู้สมัคร 2 คนที่ได้จากคะแนนจาก ส.ส.พรรคมากที่สุด จากผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด 8 คน
ในตอนแรกนั้น เธอมีคะแนนตามหลังนายริชี ซูนัค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการลงคะแนนทั้ง 5 รอบ แต่แล้วชีวิตก็พลิกผันอีกครั้ง เมื่อผลการประกาศคะแนนวานนี้ ( 5 ก.ย.) เธอกวาดคะแนน ทิ้งห่างอีกฝ่ายอย่างขาดลอย กลายเป็นหัวหน้าพรรครัฐบาลคนใหม่ ซึ่งจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยอัตโนมัติ ถือเป็นการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง หลังจากอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศได้เกือบ 1 ปีเต็ม
ภาพ: เฟซบุ๊กเพจ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตามคาด! ‘ลิซ ทรัสส์’ ผงาด นายกฯ ใหม่ อังกฤษ
- ‘บอริส จอห์นสัน’ ลาออก ‘นายกฯ อังกฤษ’ จับตา! ‘รมว.กลาโหม’ ตัวเก็งขึ้นแทนที่
- ‘ตระกูลมาร์กอส’ คืนบัลลังก์ปกครอง ‘ฟิลิปปินส์’ หลัง ‘เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์’ ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย
