อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (Economist Intelligence Unit – EIU) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจระบุว่า ค่าเงินเอเชีย มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงอีกหนึ่งไตรมาส หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
EIU คาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม และมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ EIU คาดการณ์ไว้
“การที่เฟดส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่แข็งกร้าวขึ้นอีกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทำให้สกุลเงินเอเชียจะอ่อนค่าเพิ่มอีก เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เราคาดว่าแรงกดดันที่สกุลเงินเอเชียต้องเผชิญ จะคงอยู่ต่อไปอีกหนึ่งไตรมาส หรืออาจจะนานกว่านั้น” EIU ระบุ
อย่างไรก็ดี EIU ระบุว่า มีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยที่จะเกิดเหตุซ้ำรอยวิกฤติการเงินเอเชียปี 2540 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อปี 2540
EIU กล่าวว่า ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียจะยังคงแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเป็นระยะเพื่อชะลอการอ่อนค่าของสกุลเงินในประเทศ ความพยายามเหล่านี้จะช่วยบรรเทาความผันผวนในตลาด แต่ก็อาจจะไม่สามารถสกัดการอ่อนค่าของสกุลเงินในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ได้”
ขณะที่ สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า ความแตกต่างระหว่างนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของบางประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น และจีน ทำให้เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีก และสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินของเอเชีย
ข้อมูลจากรีฟินิทิฟ ไอคอน (Refinitiv Eikon) แสดงให้เห็นว่า ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดดอลลาร์ กับตะกร้าเงินสกุลต่าง ๆ แข็งค่าขึ้น 15% นับตั้งแต่เริ่มปี 2565
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เงินเฟ้อ ก.ย. 65 เพิ่มขึ้น 6.41% จับตาค่าเงินบาท กระทบต้นทุนสินค้าปลายปี
- ‘ญี่ปุ่น’ จับตา ‘ตลาดค่าเงิน’ ใกล้ชิด กังวลผันผวนหนัก ‘เยน’ อ่อนค่าสุดรอบ 24 ปีครั้งใหม่
- เตือน ‘ค่าเงินเอเชีย’ เสี่ยงร่วงหนัก เหตุสงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’