“พาณิชย์” เผยเงินเฟ้อเดือนกันยายน 2565 เพิ่ม 6.41% แต่สินค้าภาพรวมยังสูงขึ้น คาดปลายปีเริ่มชะลอตัว แต่ยังต้องจับตาค่าเงินบาท กระทบต้นทุนสินค้า
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองปลัด กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนกันยายน 2565 เท่ากับ 107.70 เทียบกับสิงหาคม 2565 เพิ่มขึ้น 0.22% เทียบกับเดือนกันยายน 2564 เพิ่มขึ้น 6.41% ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ที่สูงขึ้นถึง 7.86% ตามการชะลอตัวของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน เคหสถาน และเครื่องประกอบอาหาร
ประกอบกับฐานดัชนีที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อในเดือนเดียวกันของปีก่อนอยู่ระดับสูง ซึ่งถือว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงตามที่คาดการณ์เอาไว้
ส่วนเงินเฟ้อรวม 9 เดือนปี 2565 (ม.ค.-ก.ย.) เพิ่มขึ้น 6.17% และเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก ดัชนีอยู่ที่ 103.73 เพิ่มขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2565 และเพิ่มขึ้น 3.12% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2564 และเฉลี่ย 9 เดือนเพิ่มขึ้น 2.26%
ปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 6.41% มาจากการขยายตัวของสินค้าในกลุ่มพลังงาน เพิ่ม 16.10% ตามการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง แม้ว่าราคาจะลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่ราคายังคงสูงกว่าเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มขึ้นของค่ากระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล (ค่าแต่งผมชาย ยาสีฟัน แชมพู) ค่าโดยสารสาธารณะ การศึกษา ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ (บุหรี่ เบียร์ สุรา) ยังสูงกว่าปีที่ผ่านมา จึงส่งผลให้สินค้าในหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 4.10%
ส่วนสินค้ากลุ่มอาหารสด เพิ่ม 10.97% ตามการสูงขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มเนื้อสัตว์ (เนื้อสุกร ไก่สด) ไข่ไก่ ผักสดและผลไม้ (พริกสด ผักคะน้า กะหล่ำปลี ส้มเขียวหวาน แตงโม มะม่วง) ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ขณะที่ อาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และเครื่องประกอบอาหาร ราคาเริ่มชะลอตัว แต่ยังคงสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้สินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 9.82%
อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาลดลง เช่น แป้งผัดหน้า น้ำยารีดผ้า ค่าส่งพัสดุ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ และเครื่องซักผ้า รวมถึงข้าวสารเหนียว มะพร้าวผล ขูด มะขามเปียก กล้วยหอม และอาหารโทรสั่ง เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อไตรมาสที่ 4 ปี 2565 คาดว่าจะยังชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า ตามต้นทุนการผลิตและโลจิสติกส์ในประเทศ ที่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบและอาหารโลกที่ปรับตัวลดลง
ประกอบกับฐานราคาที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมาตรการดูแลค่าครองชีพของภาครัฐที่อาจจะมีเพิ่มในช่วงที่เหลือของปี จะทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง แต่การบริโภคในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ตามภาคการท่องเที่ยว การส่งออก และรายได้เกษตรกรที่อยู่ในระดับดี
อย่างไรก็ตาม ราคาพลังงานโลกที่ผันผวน และค่าเงินบาทอ่อน ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบเพิ่มขึ้น จะเป็นปัจจัยที่ทำให้การชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบที่จำกัด
กระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2565 อยู่ระหว่าง 5.5-6.5% ค่ากลาง 6% ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจของไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ดาวโจนส์’ ปิดร่วง 500.10 จุด วิตก ‘เงินเฟ้อ-เศรษฐกิจถดถอย’
- ‘กอบศักดิ์’ ชี้ ‘เงินปอนด์’ อ่อนค่าสุด เหตุ ‘เฟด’ เอาจริงเรื่องเงินเฟ้อ
- ‘ค้าปลีก’ ห่วงเงินเฟ้อ ผลักราคาสินค้าพุ่ง ขึ้นค่าจ้างกระทบต้นทุน