น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ร่วงหลุดระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหตุนักลงทุนกังวล “เศรษฐกิจถดถอย” ทั่วโลก จะฉุดความต้องการใช้น้ำมันลดลง
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ร่วงลง 2.12 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 88.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม ดิ่งลง 2.66 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 94.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน ได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐ และยุโรป รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่จีนใช้มาตรการเข้มงวด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ล่าสุดสั่งล็อกดาวน์เมืองซานย่า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ทางตอนใต้ของมณฑลไหหลำ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบ และสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐ ที่พุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลง
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 163,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- เปิดเหตุผล ‘ราคาน้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน
- ‘ยูเออี’ ลั่น ทำงานร่วม ‘โอเปกพลัส’ สร้างเสถียรภาพ ‘ตลาดน้ำมันโลก’