“ไอเอ็มเอฟ” ชี้ ธนาคารกลางเอเชียหลายประเทศ ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย เหตุแรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น จากการที่ราคาอาหาร และพลังงานโลกพุ่งสุงขึ้น เพราะสงครามในยูเครน
นายกฤษณะ ศรีนิวาสัน ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก เขียนข้อความลงบนบล็อกเมื่อวานนี้ (28 ก.ค.)ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของเอเชีย ยังคงน้อยกว่าภูมิภาคอื่น ๆ แต่ราคาที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ อยู่ในระดับสูงกว่าที่ธนาคารกลางตั้งเป้าหมายไว้
ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ
“หลายประเทศจำเป็นต้องขึ้น ดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเงินเฟ้อกำลังขยายวงกว้างไปถึงราคาสินค้าหลัก ที่ไม่นับรวมสินค้าประเภทอาหาร และพลังงาน ที่มีความผันผวนมากกว่า”
เขาบอกด้วยว่า เศรษฐกิจเกิดใหม่เกือบทั้งหมดในเอเชีย ต่างเผชิญกับการไหลออกของเงินทุน เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ในปี 2556 ที่ผลตอบแทนพันธบัตรโลกพุ่งขึ้น จากการที่ธนาคารกลางาสหรัฐ (เฟด) ออกมาบอกเป็นนัยว่า จะลดปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
การเพิ่มความเข้มงวดในนโยบายการเงิน จะทำให้การเงินที่แย่ลงในบางประเทศเอเชียตึงตัวมากขึ้น แลทำให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย มีช่องทางที่จำกัด ในการหาทางรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการใช้จ่ายทางการคลัง เพราะการระบาดใหญ่
นอกจากนี้ บางประเทศในเอเชีย อาจจำเป็นต้องนำมาตรการต่าง ๆ อาทิ การแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และควบคุมเงินทุน เข้ามาใช้ เพื่อรับมือกับการไหลออกของเงินทุนจำนวนมาก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 65-66 เหตุ ‘สงครามยูเครน’ จ่อยืดเยื้อ เตือนภัย ‘เงินเฟ้อ’
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ มอง ‘วิกฤติยูเครน’ ทำ ‘เศรษฐกิจเอเชีย’ ผันผวนมากขึ้น ชี้ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งกระทบ ‘ราคาน้ำมัน’
- ธนาคารโลกคาด ‘เศรษฐกิจยูเครน’ หดตัว 45% เซ่นความขัดแย้ง