“ไอเอ็มเอฟ” ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้าลงเหลือ 3.6% เหตุได้รับผลกระทบของสงครามในยูเครนชี้ “ไทย” โตน้อยสุดในกลุ่ม ASEAN 5 พร้อมเตือนด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อสูง กำลังเป็นอันตรายต่อหลายประเทศ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด ที่ระบุว่า เศรษฐกิจโลกอาจขยายตัว 3.6% ทั้งในปี 2565 และ 2566 ลดลงจากการประเมินเมื่อเดือนมกราคม ที่มองว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.4% ในปี 2565 และ 3.8% ในปี 2566 โดยชี้ว่า สงครามในยูเครน อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอการขยายตัวลง และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
รายงานบอกด้วยว่า มาตรการลงโทษต่อภาคพลังงานของรัสเซีย ผลกระทบของสงครามในวงกว้าง และการปรับตัวลดลงของเศรษฐกิจจีน เนื่องจากการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ล้วนส่งผลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะที่เงินเฟ้อในระดับสูงจะยิ่งสร้างปัญหาปากท้องให้กับประชาชนในหลายประเทศ และอาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางสังคม
นายปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกต้องก้าวถอยหลัง เพราะรัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน ที่เป็นอุปสรรคสำคัญของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
“ผลของสงครามนี้เหมือนคลื่นแผ่นดินไหวที่สะเทือนไปอย่างกว้างขวางและยาวไกล กระทบต่อตลาดและการค้าต่าง ๆ รวมถึงภาคการเงิน”
สงครามที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ยังทำให้อัตราเงินเฟ้อยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ เนื่องจากการขาดสมดุลในด้านอุปสงค์และอุปทานของสินค้า ที่ต่อเนื่องมาจากช่วงโควิดระบาดใหญ่ รวมถึงการล็อกดาวน์ล่าสุดในนครเซี่ยงไฮ้ ที่ทำให้ภาคการผลิตของจีนหยุดชะงักตามไปด้วย
ไอเอ็มเอฟ ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศพัฒนาแล้วในปีนี้ จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 5.7% เพิ่มขึ้นจาก 1.1% ในการคาดการณ์ครั้งก่อน และอัตราเงินเฟ้อของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนา คาดว่าจะอยู่ที่ 8.7% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.8% ในการประเมินเมื่อเดือนมกราคม
สหรัฐในปี 2565 จะเติบโตได้ที่ 3.7% ลดลงจากเมื่อครั้งคาดการณ์เมื่อเดือนมกราคม ที่ 5.6% ส่วนจีน จะเติบโตได้ที่ 4.4% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้เมื่อเดือนมกราคมที่ 8.1% ขณะที่ กลุ่มยูโรเซน จะเติบโตได้ที่ 2.8% จากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนมกราคม ที่ 5.2%
พร้อมกันนี้ ยังปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย ลงอีก 1.1% จากการคาดการณ์ครั้งที่แล้ว
ไทยโตน้อยสุดกลุ่ม ASEAN 5
ในส่วนของไทย ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ที่ 3.3% และปี 2566 จะโตได้ 4.3% ถือเป็นการเติบโตต่ำสุดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของอาเซียน หรือ “อาเซียน ไฟฟ์ (ASEAN 5) ไม่รวมสิงคโปร์
ในปีนี้ ฟิลิปปินส์ จะเติบโตได้มากที่สุดของกลุ่มที่ 6.5% ตามมาด้วย เวียดนาม 6.0% , มาเลเซีย 5.6% ,อินโดนีเซีย 5.4% และไทย 3.3%
นอกจากนี้ ยังมองว่า ในปี 2565 เศรษฐกิจรัสเซีย และยูเครนจะหดตัวลงอย่างมาก โดยเศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัว 8.5% ในปี 2565 และ 2.3% ในปี 2566 ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐ และชาติตะวันตก ขณะที่เศรษฐกิจยูเครนจะหดตัวมากถึง 35% ในปี 2565 และระบุว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้การวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ ถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูเครน จากการทำสงครามกับรัสเซีย
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ กล่าวด้วยว่า ธนาคารกลางของหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐ ได้เริ่มใช้นโยบายการเงินแบบรัดเข็มขัดแล้ว แต่ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามในยูเครนจะยังคงเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลกต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ธนาคารโลกคาด ‘เศรษฐกิจยูเครน’ หดตัว 45% เซ่นความขัดแย้ง
- ‘เลบานอน’ ประกาศล้มละลาย!! หลัง ‘เศรษฐกิจ’ อยู่ในภาวะวิกฤติตั้งแต่ปี 62
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ มอง ‘วิกฤติยูเครน’ ทำ ‘เศรษฐกิจเอเชีย’ ผันผวนมากขึ้น ชี้ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งกระทบ ‘ราคาน้ำมัน’