ราคาน้ำมันดิบ เวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ขยับขึ้นเล็กน้อยแค่ 46 เซนต์ แรงหนุนจากการเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังราคาดิ่งแรงเมื่อวันก่อน แต่ขาขึ้นยังโดนสกัดจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งสูงเกินคาด
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 96.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 99.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวในกรอบแคบ แม้นักลงทุนจะเข้าช้อนซื้อ หลังจากราคาร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ตลาด ได้รับแรงกดดันจากความกังวล ถึงความเป็นไปได้ที่ความต้องการน้ำมันในสหรัฐจะลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 150,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 350,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์ และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หากเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากเดือนพฤษภาคม ที่พุ่งขึ้น 6.0% แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.8%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ซีอีโอเอ็กซอน’ เตือน เปลี่ยนใช้ ‘พลังงานหมุนเวียน’ กะทันหัน ทำ ‘ราคา น้ำมัน’ พุ่ง
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- เปิดเหตุผล ‘ราคา น้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน
