ตำรวจอเมริกันจับกุมชายต้องสงสัยก่อเหตุกราดยิงสังหาร 6 ศพ ระหว่างการเดินขบวนพาเหรดวันชาติอเมริกา 4 กรกฎาคม ใกล้นครชิคาโกได้แล้ว ตรวจสอบพบ ก่อนหน้าเกิดเหตุ ผู้ต้องหาโพสต์มิวสิทควีดิโอที่ตัดต่อขึ้นเอง มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงของอาวุธปืน
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยคนนี้มีชื่อว่า โรเบิร์ต อี คริโม ที่สาม อายุ 22 ปี โดยตำรวจจับกุมได้บริเวณใกล้นครชิคาโก หลังประกาศให้เป็นผู้ต้องสงสัยและดำเนินการไล่ล่าเพียงไม่นาน
สำหรับเหตุกราดยิงกลางขบวนพาเหรดวันชาติสหรัฐ เชื่อว่า มือปืนได้กราดยิงลงมาใส่ประชาชนจากชั้นดาดฟ้าของร้านค้า ที่อยู่ใกล้กับขบวนพาเหรด ในเมืองไฮแลนด์ พาร์ค ใกล้กับนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เพียงไม่กี่นาทีหลังเริ่มกิจกรรม
เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ 5 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 36 คน โดยตำรวจพบหลักฐานเป็นอาวุธบนชั้นดาดฟ้าดังกล่าว
อาวุธที่มือปืนใช้เป็นปืนไรเฟิลอานุภาพสูง ซึ่งหลังเปิดฉากยิงใส่ฝูงชน ได้ก่อให้เกิดความโกลาหล ประชาชนหนีตาย กิจกรรมเดินขบวนพาเหรดต้องยกเลิกกลางคัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้แสดงความเสียใจ และสลดใจต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ทั้งที่ขบวนพาเหรดวันชาติ ควรจะเป็นวันที่ประชาชนได้เฉลิมฉลองกัน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้โพสต์มิวสิค วีดิโอ หล่ายชิ้น ที่เขาทำขึ้นเองทางออนไลน์ โดยมีเนื้อร้อง และภาพแอนิเมชัน ที่เกี่ยวกับความรุนแรงของปืน โดยหนึ่งในนั้น รวมถึง มิวสิควีดิโอ ที่เป็นภาพของตัวเขาเอง ย้อมผมหลายสี และมีรอยสักบนใบหน้า พร้อมคำบรรยายว่า “ฉันแค่ต้องทำมัน มันเป็นโชคชะตาของฉัน”
นอกจากนี้ ยังมีแอนิเมชัน รูปตัวการ์ตูนผู้ชายในชุดพราง ที่จำลองแบบมาจากตัวของเขาเอง และถือปืนไรเฟิลอยู่
คลิปนาทีตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยกราดยิง
เกิดเหตุกราดยิงแทบทุกสัปดาห์!
บีบีซี รายงานว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สหรัฐเผชิญเหตุกราดยิงบ่อยครั้ง บางครั้งทุก ๆ 1-2 วัน และเกิดขึ้นแทบทุกสัปดาห์ โดยข้อมูลจากเว็บไซต์คลังข้อมูลความรุนแรงจากปืน (Gun Violence Archive) พบว่า สหรัฐมีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนราว 40,000 คนต่อปี
คลังข้อมูลความรุนแรงจากปืนยังชี้ว่า ในปี 2565 นี้ เกิดเหตุกราดยิงมาแล้วถึง 309 ครั้ง รวมถึงเหตุกราดยิงในไฮห์แลนด์ พาร์คด้วย ขณะเดียวกัน ในวันเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ 4 กรกฎาคม ยังเกิดเหตุกราดยิงในพื้นที่อื่น 3 ครั้งด้วย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
เหตุกราดยิงที่เกิดถี่ขึ้น รวมถึงเหตุร้ายแรง อาทิ เหตุสังหารหมู่นักชอปปิงในซูเปอร์มาร์เก็ตย่านคนดำของรัฐนิวยอร์ก 10 ศพ และเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมในรัฐเทกซัส อีก 21 ศพ ส่วนใหญ่เป็นเด็ก เมื่อเดือนพฤษภาคม ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และการรณรงค์ให้รัฐบาลออกกฎหมายควบคุมการจำหน่ายอาวุธปืน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีไบเดนได้ลงนามในกฎหมายรัฐบาลกลางว่าด้วยความปลอดภัยจากอาวุธปืน ซึ่งถือเป็นกฎหมายลักษณะนี้ฉบับแรกในรอบหลายสิบปี ด้วยความหวังว่าจะ “ต่อสู้กับการระบาดของความรุนแรงจากปืน”
การลงนามในกฎหมายดังกล่าว เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังศาลสูงสุดประกาศว่าชาวอเมริกันมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เดนมาร์ก ช็อก! มือปืนวัย 22 กราดยิงห้างใหญ่กลางเมือง ดับ 3 ศพ ยังไม่ตัดประเด็นก่อการร้าย
- นอร์เวย์ช็อก! คนร้ายกราดยิงที่ไนท์คลับ ตาย 2 เจ็บอีก 14 ราย
- หนีตายจ้าละหวั่น! นักศึกษารัสเซีย กราดยิงในมหาวิทยาลัย ดับ 8 ศพ
