“อะแรมโค” ประกาศแผนเพิ่มการลงทุนราว 50% ในปีนี้ หลังจากปี 2564 ทำกำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่า แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เหตุ ความต้องการ-ราคาน้ำมันพุ่งแรง
รัฐวิสาหกิจด้านน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย “ซาอุดี อะแรมโค” แถลงว่า ในปี 2565 จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านเงินทุนราว 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร่วม 50% จากการลงทุน 31,900 ล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการลงทุนเมื่อปี 2563 ราว 18%
อะแรมโค ได้กำไรจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อปีที่แล้ว ที่ 110,000 ล้านดอลลาร์ เทียบกับในปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 49,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น และมีการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่าง ๆ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันแซงหน้าปริมาณการผลิต
ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนนี้ ราคาน้ำมันยังพุ่งสูงกว่าบาร์เรลละ 100 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี หลังจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทำให้ชาติตะวันตกขอให้ซาอุดีอาระเบีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมันชาติอื่น ๆ เพิ่มกำลังการผลิต
ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มปริมาณการผลิต ทำให้ันักลงทุนคาดว่า ในปี 2565 นี้ อะแรมโค อาจทำกำไรสุทธิได้สูงถึง 140,000 ล้านดอลลาร์
การคาดการณ์ดังกล่าว ทำให้ราคาหุ้นของอะแรมโคเพิ่มขึ้น 4% เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) ตามเวลาในสหรัฐ และทำให้มูลค่าทางตลาดของบริษัท เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 2.34 ล้านล้านดอลลาร์ แซงมูลค่าของ “ไมโครซอฟท์” แต่ยังคงเป็นอันดับ 2 รองจาก “แอปเปิ้ล” ที่มีมูลค่ามากสุดในโลกที่ 2.68 ล้านล้านดอลลาร์
อะแรมโค เปิดเผยด้วยว่า บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มความสามารถในการส่งออกไฮโดรเจน และตั้งเป้าที่จะผงาดขึ้นมาเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในเทคโนโลยี กักเก็บ และดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตาผลกระทบหนัก! ‘ไบเดน’ สั่งแบน ‘น้ำมันรัสเซีย’ หวั่นราคาพุ่งถึง 200 ดอลล์
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ ปรับคาดการณ์ ‘ราคาน้ำมัน’ พุ่ง 135 ดอลล์ ปี 65
- ‘สหรัฐ’ เผย ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ย พุ่งสูงสุดรอบ 14 ปี
