โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้และปีหน้า โดยระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญปัญหาการขนส่งน้ำมันครั้งใหญ่สุด ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครน ซึ่งส่งผลให้นานาประเทศคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
วาณิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐ “โกลด์แมน แซคส์” เปิดเผยว่า ได้ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์มาอยู่ที่ 135 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำหรับปี 2565 จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าจะอยู่ที่ราว 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และจะแตะระดับ 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีหน้า จากเดิมที่ระดับ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยหลัก 2 ประการ ที่ดันให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น นอกจากเรื่องของวิกฤติยูเครน ที่ทำให้นานาชาติคว่ำบาตรต่อรัสเซีย จนส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันแล้ว ยังรวมถึง การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก ก็เริ่มเผชิญอุปสรรค หลังจากที่รัสเซียเรียกร้องให้สหรัฐรับประกันว่ามาตรการคว่ำบาตรที่รัสเซียเผชิญในขณะนี้ จะไม่กระทบต่อการค้าระหว่างรัสเซียและอิหร่าน
“ในระยะสั้น การรับมือกับภาวะการจัดหาที่ลดลง จะต้องได้รับความช่วยเหลือร่วมกันจากทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ระดับโลก กลุ่มโอเปก อิหร่าน และราคาที่สูงขึ้นเพื่อลดการบริโภค” รายงานของโกลด์แมน แซคส์ ระบุ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
“เราจะห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย ซึ่งหมายความว่ารัสเซียจะไม่สามารถส่งน้ำมันมายังท่าเรือสหรัฐอีกต่อไป”
ผู้นำสหรัฐ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นต่อไป อันเป็นผลจากมาตรการดังกล่าว แต่ให้สัญญาว่าจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อลดผลกระทบต่อชาวอเมริกัน พร้อมเตือน เตือนบริษัทน้ำมันของสหรัฐอย่าได้ฉวยโอกาสทำกำไรจากการโก่งราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ สหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันเฉลี่ยมากกว่า 20.4 ล้านบาร์เรล/เดือนจากรัสเซียในปีที่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นักลงทุนรุ่นใหม่ สนใจลงทุน ทองคำ ราคาพุ่งต่อ จากความขัดแย้ง ‘รัสเซีย-ยูเครน’
- ‘สหรัฐ’ เผย ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ย พุ่งสูงสุดรอบ 14 ปี
- PTTEP หุ้นรับประโยชน์ราคาน้ำมันแพง สงครามรัสเซีย-ยูเครน
