World News

WHO เผยโควิด-19 คร่าชีวิตทั่วโลกทะลุ 6 ล้านรายแล้ว

องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยยอดผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วโลกรวมอยู่ที่ 6,004,421 ราย เมื่อนับถึงวันอังคาร (8 มี.ค.) ส่วนยอดผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 446,511,318 ราย

สหรัฐ เป็นประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมและผู้ป่วยเสียชีวิตสูงที่สุดในโลก โดยมีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 78 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 951,348 ราย คิดเป็น 17.6% และ15.8% ของยอดรวมทั่วโลก

โควิด

ส่วนอันดับสองและสาม ได้แก่ อินเดีย (ผู้ป่วยสะสมเกิน 42 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 515,210 ราย) และบราซิล (ผู้ป่วยสะสม 29 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 652,143 ราย)

ทวีปอเมริกาและทวีปยุโรป มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากกว่า 148 ล้านราย และ 183 ล้านราย ตามลำดับ ส่วนยอดผู้ป่วยเสียชีวิตของทั้งสองทวีปอยู่ที่ 2,649,627 และ 1,891,911 ราย ตามลำดับ

โควิด

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน อาจส่งผลให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แพร่ระบาดสูงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงเกิดอาการป่วยร้ายแรงในประชาชนจำนวนมาก

ทีโดรส ระบุว่าองค์การฯ กังวลเกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครนอย่างยิ่ง โดยก่อนหน้าความขัดแย้ง ยูเครน มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น ขณะอัตราการตรวจโรคต่ำลงตั้งแต่เริ่มเกิดความขัดแย้ง บ่งชี้ว่าอาจมีการแพร่ระบาดที่ไม่ถูกตรวจพบอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับอัตราความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนก็ต่ำ ส่วนการขาดแคลนออกซิเจนขั้นวิกฤตจะส่งผลกระทบต่อความสามารถรักษาผู้ป่วยและโรคอื่นๆ อีกมาก

โควิด

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่ามีประชาชนเดินทางออกจากยูเครนมากกว่า 870,000 คน เมื่อนับถึงวันอังคาร (1 มี.ค.) และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว โดยทีโดรสระบุว่าการเคลื่อนที่ของประชากรจำนวนมากอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สูงขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขในประเทศเพื่อนบ้าน

ขณะเดียวกัน ไมก์ ไรอัน กรรมการบริหารประจำโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การฯ เตือนว่าการเคลื่อนที่ของประชากรจำนวนมากเนื่องจากความขัดแย้ง อาจส่งผลให้โรคโควิด-19 เกิดการแพร่ระบาดสูงขึ้น และส่งผลให้เกิดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ด้วย

องค์การฯ ได้ส่งมอบเวชภัณฑ์ที่จำเป็นจากศูนย์กลางในนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยการจัดส่งครั้งแรกจะมาถึงโปแลนด์ในวันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) ซึ่งมีทั้งอุปกรณ์ดูแลผู้บาดเจ็บและการผ่าตัดฉุกเฉิน จำนวน 36 ตัน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย 1,000 ราย และอุปกรณ์ด้านสุขภาพอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน 150,000 คน

ที่มา:สำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight