น้ำมัน สมาคมรถยนต์อเมริกัน (AAA) เผย ราคาน้ำมันเฉลี่ยต่อแกลลอน (ราว 3.785 ลิตร) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ อยู่ที่ 5.343 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 177 บาท) ถือเป็นราคาน้ำมันที่แพงที่สุดในประเทศ
สำนักข่าวซินหัว รายงาน ราคาน้ำมันเฉลี่ยในแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่ม 51 เซนต์ (ราว 17 บาท) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากสมาคมฯ เผยว่าแคลิฟอร์เนียติดอันดับหนึ่งใน 10 รัฐที่ราคาน้ำมันที่แพงที่สุด ตามมาด้วยฮาวาย ซึ่งมีราคาน้ำมันเฉลี่ย 4.69 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 155 บาท) และเนวาดา ซึ่งมีราคาน้ำมันเฉลี่ย 4.59 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 152 บาท)
สมาคมฯ กล่าวในแถลงต่อสื่อว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยต่อแกลลอนในสหรัฐอยู่ที่ 4.06 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 134 บาท) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 45 เซนต์ (ราว 15 บาท) จากเดือนที่แล้ว 62 เซนต์ (ราว 20.5 บาท) และจากปีที่แล้ว 1.3 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 43 บาท)
สมาคมฯ ชี้ว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ดำเนินต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น และทำให้ราคาน้ำมันในสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมเสริมว่าแนวโน้มราคาน้ำมันรถในปัจจุบันจะยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ตราบใดที่ราคาน้ำมันดิบยังคงสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้ อเล็กซานเดอร์ โนวัก รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เผยว่ารัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับราคาพลังงานที่กำลังพุ่งสูง และความผันผวนของตลาดพลังงานในปัจจุบัน ขณะที่ยุโรปบริโภคก๊าซประมาณ 5 แสนล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ในจำนวนนี้ 40% มาจากรัสเซีย ถือเป็น “ประเทศพันธมิตรที่เชื่อถือได้เสมอ”
โนวัก เผยว่าก๊าซพรอม (Gazprom) ยักษ์ใหญ่ด้านก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย กำลังเดินหน้าทำตามข้อผูกพันจัดหาก๊าซให้ยุโรป โดยรัสเซียเป็นผู้จัดหาน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของยุโรป คิดเป็นร้อยละ 30 ของปริมาณการบริโภคน้ำมันในยุโรป และรัสเซียได้ทำตามข้อผูกพันทั้งหมดอย่างเต็มที่ โดยผลิตภัณฑ์น้ำมันกำลังถูกส่งสู่ตลาดยุโรปตามแผนการ
ทั้งนี้ ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นจากการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) กอปรกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนเมื่อไม่นานนี้
การประมาณการเบื้องต้นจากยูโรสแตท (Eurostat) สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (EU) เมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่าราคาพลังงานทั่วพื้นที่ยูโรโซนมีแนวโน้มเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ร้อยละ 31.7 เมื่อเทียบปีต่อปี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
