COVID-19

สาวๆ พึงระวัง! ผลศึกษาพบ ‘สารเคมีพิษ’ ใน ‘เครื่องสำอางอเมริกัน’

เครื่องสำอาง มากกว่าครึ่งที่จำหน่ายในสหรัฐ และแคนาดา เต็มไปด้วยด้วยสารประกอบทางอุตสาหกรรมที่เป็นพิษ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ซึ่งรวมไปถึงโรคมะเร็ง และน้ำหนักตัวเด็กแรกเกิดที่ลดลงได้

คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอเทรอดาม ทดสอบเครื่องสำอางที่ใช้กันทั่วไป มากกว่า 230 รายการ และพบว่า 56% ของผลิตภัณฑ์รองพื้น และผลิตภัณฑ์สำหรับดวงตา 48% ของผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปาก และ 47% ของมาสคาร่า มีสารฟลูออรีน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ระดับของสาร PFAS (perfluoroalkyl และ polyfluoroalkyl) หรือที่เรียกว่า “สารเคมีอมตะ” ที่ใช้ในกระทะเคลือบ แบบไม่ติดกระะทะ พรม และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน เจือปนอยู่

เครื่องสำอาง

มาสคารากันน้ำ เครื่องสำอาง มี PFAS สูงสุด

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Environmental Science & Technology Letters เมื่อไม่นานมานี้พบว่า ระบุว่า มาสคาราแบบกันน้ำ มีระดับสาร PFAS สูงที่สุด ถึง 82%  ตามด้วย ลิปสติกชนิดติดทนนาน 62%

นอกจากนี้ เมื่อนำผลิตภัณฑ์ 29 อย่าง ที่มีความเข้มข้นของฟลูออรีนสูง ไปทดสอบเพิ่มเติม ยังพบสารเคมีบางตัวในกลุ่ม PFAS ราว 4-13 ชนิด แต่มีผลิตภัณฑ์เพียงชิ้นเดียว ที่ระบุว่ามีสาร PFAS หรือสารเพอร์ฟลูออโรอัลคิล และ โพลีฟลูออโรอัลคิล เป็นส่วนผสมไว้บนฉลาก

โฆษกหญิงขององค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA)  หน่วยงานที่ควบคุมเรื่องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง กล่าวว่า ทางหน่วยงานมักไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการศึกษาใด ๆ

FDA ระบุบนเว็บไซต์ว่า มีการศึกษาไม่กี่ฉบับเกี่ยวกับสารเคมี ที่มีอยู่ในเครื่องสำอาง และการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ พบว่า ความเข้มข้นของสารเคมีนั้นอยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งไม่น่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้

เอกสารข้อเท็จจริงที่โพสต์บนเว็บไซต์ของ FDA เผยว่า หากวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสาร PFAS ในเครื่องสำอางยังคงพัฒนาขึ้น FDA ก็จะเดินหน้าตรวจสอบข้อมูลที่ทางอุตสาหกรรมเป็นผู้สมัครใจส่งมาให้ ตลอดจนงานวิจัยต่าง ๆ ที่จะได้รับการตีพิมพ์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม สารเคมี PFAS จัดเป็นปัญหาที่ผู้ร่างกฎหมาย ซึ่งทำงานเพื่อควบคุมการใช้ในสินค้าอุปโภคบริโภค กำลังกังวลกันมากขึ้น โดยผลการศึกษานี้ ถูกเผยแพร่ออกมา ในขณะที่ สมาชิกวุฒิสภากลุ่มหนึ่ง เสนอร่างกฎหมายห้ามการใช้ PFAS ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามอื่น ๆ

การเคลื่อนไหวในการห้ามใช้สาร PFAS ยังเกิดขึ้น ขณะที่รัฐสภาสหรัฐ กำลังพิจารณากฎหมายหลายฉบับ เพื่อกำหนดมาตรฐานน้ำดื่มแห่งชาติสำหรับสารเคมี PFAS บางชนิด และเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ที่ปนเปื้อนทั่วประเทศ รวมถึง ฐานทัพ ที่พบสาร PFAS ในอัตราที่สูงด้วย

เครื่องสำอาง

นอกจากนี้แล้ว หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมก็กำลังรวบรวมข้อมูลทางอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการใช้สารเคมี PFAS และความเสี่ยงต่อสุขภาพ เนื่องจากทางหน่วยงานกำลังพิจารณากฎระเบียบต่าง ๆ ในการลดความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นจากสารเคมีดังกล่าว

ทางด้านสภาผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสมาคมการค้า ตัวแทนของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง แถลงว่า อาจมีการตรวจพบสารเคมี PFAS ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ที่เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น โลชั่น ยาทาเล็บ เครื่องสำอางสำหรับดวงตา และรองพื้น

นางอเล็กซานดรา โควซ์  หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของสภา กล่าวว่า สารเคมีดังกล่าว ที่ถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความคงตัวนั้นอยู่ภายใต้ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของ FDA

แต่นายเกรแฮม พีสลี ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ ที่มหาวิทยาลัยนอเทรอดาม หัวหน้าคณะที่ทำการศึกษานี้ กล่าวว่า ผู้ที่ใช้เครื่องสำอางที่มีสาร PFAS จะมีความเสี่ยงทันทีและมีผลในระยะยาว และว่า PFAS เป็นสารเคมีที่คงอยู่นาน เมื่อเข้าสู่กระแสเลือดก็จะสะสมอยู่ในนั้นตลอดไป

อย่างไรก็ดี ถึงแม้การศึกษาดังกล่าว ไม่ได้พยายามเชื่อมโยงผลกระทบด้านสุขภาพใด ๆ กับการใช้เครื่องสำอาง แต่นายพีสลี กล่าวว่า นักวิจัยพบว่าระดับของสาร PFAS ที่พบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้นมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงระดับสูง จนเรียกได้ว่าน่าเป็นห่วงเลยทีเดียว

นอกจากนี้ สารเคมีเหล่านี้ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สิ่งแวดล้อมจะถูกปนเปื้อนจากการผลิต และการกำจัดทิ้งด้วย

สารประกอบที่มนุษย์สร้างขึ้นมานี้ ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จำนวนนับไม่ถ้วน เช่น เครื่องครัวแบบไม่ติดกระทะ หรือ nonstick อุปกรณ์กีฬากันน้ำ เครื่องสำอาง และบรรจุภัณฑ์อาหารที่ทนต่อความมัน และโฟมดับเพลิง

การศึกษาด้านสาธารณสุข พบว่า การใช้สาร PFAS ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ มากมาย เช่นโรคมะเร็งบางชนิด ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และน้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำ และการทดสอบอย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังพบว่ามีสาร PFAS ในระดับสูงในระบบน้ำประปาสาธารณะ และในฐานทัพทหารหลายแห่ง

ที่มา: VOA

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo