“แคนาดา” แนะ คนที่ ฉีดวัคซีนโควิด-19 “แอสตร้าเซนเนก้า” เป็นเข็มแรก ควรฉีดวัคซีนของ “ไฟเซอร์/ไบโอเอนเทค” หรือ “โมเดอร์นา” ในเข็มที่ 2 ระบุ มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันดีขึ้น
หลังจากเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะกรรมการที่ปรึกษาแห่งชาติ ด้านการสร้างภูมิคุ้มกันแคนาดา (NACI) ได้ออกมาคำแนะนำต่อชาวแคนาดาว่า ผู้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า สามารถเลือกได้ว่า จะรับวัคซีนตัวเดิม ในโดสที่สอง หรือจะเปลี่ยนเป็น รับวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ก็ได้นั้น
ล่าสุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น คณะกรรมการฯ ได้เผยแพร่คำแนะนำใหม่ สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นโดสแรกว่า หากได้รับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอนเทค หรือโมเดอร์นาเป็นโดสที่สอง “จะดีกว่า”
“เป็นเรื่องที่ดีกว่า หากผู้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า เป็นโดสแรก เข้ารับวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ เป็นโดสที่สอง โดยอิงจากหลักฐานชิ้นใหม่ ที่บ่งชี้ การตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน ที่ดีขึ้น จากการฉีดวัคซีน แบบผสมชนิดกัน”
คำแนะนำใหม่นี้ อิงจากหลักฐานที่ว่า การได้รับวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ เป็นโดสที่สอง สามารถสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงความเสี่ยงที่ “ต่ำแต่ร้ายแรง” ของภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ที่อาจเกิดจากวัคซีนโควิด ของแอสตร้าเซนเนก้า โดยประชาชนยังคงสามารถเลือกรับวัคซีน ของแอสตร้าเซนเนก้าได้ หากต้องการ หรือมีประวัติ แพ้วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ
“อย่างไรก็ดี ผู้ที่ได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าทั้ง 2 โดสสามารถ วางใจได้ว่า เกิดกสนสามารถสร้างเกราะป้องกันที่ดี รวมทั้งป้องกันอาการรุนแรง และการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ดีมาก”
นับถึงวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา มีชาวแคนาดาที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนกา 1 โดสไปแล้ว 2.1 ล้านคน และได้รับวัคซีนดังกล่าวครบ 2 โดส จำนวน 15,186 คน
คณะกรรมการฯ ย้ำด้วยว่า ชาวแคนาดาสามารถเปลี่ยนไปฉีดวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอได้ตามต้องการ เนื่องจากแคนาดากำลังจะได้รับวัคซีนจากไฟเซอร์และโมเดอร์นาอีกจำนวนมากในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยมีกำหนดส่งถึงในเดือนนี้จำนวน 14 ล้านโดส
ทั้งนี้ หลักฐานชิ้นใหม่จากการศึกษาในเยอรมนีชี้ว่า การฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าโดสแรก และวัคซีนของไฟเซอร์โดสสองผสมกัน สามารถสร้าง “การตอบสนอง” ทางภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ รวมทั้งต่อต้านเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธ์ุที่น่ากังวล (Variants of concern) มากกว่าการฉีดแค่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าทั้ง 2 โดส
หลักฐานชี้ว่า การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นโดสแรก ตามด้วยวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ อย่างไฟเซอร์/ไบโอเอนเทค เป็นโดสสองนั้นปลอดภัย
คณะกรรมการฯ ยังแนะนำว่าผู้รับวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ ควรรับโดสสอง ด้วยวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอเช่นกัน ยกเว้นวัคซีนยี่ห้อเดียวกัน ไม่พร้อมใช้งาน หรือไม่ทราบยี่ห้อของวัคซีนโดสแรกที่ฉีด โดยสามารถใช้วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอต่างยี่ห้อกันได้
ฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ ดีอย่างไร
สำหรับรูปแบบการพัฒนา วัคซีนป้องกันโควิด-19 ทุกวันนี้ มีทั้ง แบบ “ดีเอ็นเอวัคซีน” (DNA) และ “เอ็มอาร์เอ็นเอวัคซีน” (mRNA) ซึ่งเป็นการตัดต่อสารพันธุกรรม
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาวัคซีนรูปแบบอื่น ๆ ที่เรียกว่า Subunit vaccine คือ การใช้โปรตีนบางส่วนของเชื้อ รวมทั้ง การนำโครงสร้าง มาทำเป็นเปลือกของไวรัส ที่เรียกว่า วีแอลพี (VLP) หรือใช้ไวรัสตัวอื่น มาเป็นพาหะ ในการนำสารพันธุกรรมของโควิด-19 ไปเป็นวัคซีนก็มี ซึ่งมีหลายรูปแบบ
วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ ใช้เทคโนโลยีใหม่ สังเคราะห์สารพันธุกรรม “เอ็มอาร์เอ็นเอ” (messenger RNA: mRNA) ที่เฉพาะเจาะจงกับเชื้อไวรัส วัคซีนจะทำหน้าที่ พาเอ็มอาร์เอ็นเอ เข้าเซลล์ และ กํากับให้เซลล์ ผลิตสารโปรตีนหนาม ของเชื้อไวรัส ซึ่งโปรตีนนี้ จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้สร้างแอนติบอดี ขึ้นมาต่อต้านเชื้อ
วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ ที่มีใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ วัคซีนของไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา ซึ่งจากข้อมูลในปัจจุบัน วัคซีนชนิดนี้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ประมาณ 95% ป้องกันการป่วยรุนแรง และป้องกันการเสียชีวิตได้ 100%
วัคซีนของโมเดอร์นา และ ไฟเซอร์/ไบโอเอนเทค ประสบความสำเร็จสูงมาก ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ “เลียนแบบการติดเชื้อไวรัสตามธรรมชาติ” นั่นเอง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอยง’ เคลียร์ข้อสงสัย? ทำไมบางประเทศ รับรองวัคซีน แค่บางตัว
- อินโดฯ อึ้ง! ‘หมอ-พยาบาล’ ติดโควิดกว่า 350 คน แม้ฉีดวัคซีน ครบแล้ว
- ‘อินเดีย’ สั่งสอบด่วน แล็บ ‘ปลอมข้อมูล’ ตรวจโควิดนับแสน เทศกาลกุมภเมลา