กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” ระบุ การเสียเมืองเมียวดีให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ ที่จับมือกับกลุ่มต่อต้าน ทำให้รัฐบาลเมียนมาสูญเสียช่องทางการค้าสำคัญ
นายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ แสดงความเห็นว่า เมืองเมียวดีที่อยู่บริเวณพรมแดนเมียนมา ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทย เป็นเส้นทางการค้าสำคัญ เพราะถึงแม้จะเกิดการสู้รบครั้งใหม่ นับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 การค้าทวิภาคีข้ามพรมแดนช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงเดือนมีนาคม 2567 ยังคงมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลา หรือกว่า 36,730 ล้านบาท
การสูญเสียเมืองนี้ จึงเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของเมียนมา เพราะในบรรดาจุดผ่านแดนอย่างเป็นทางการระหว่างไทยกับเมียนมานั้น เมืองนี้มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญมากที่สุด
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ก่อนหน้านี้ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) อ้างว่า กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นแอลเอ) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของเคเอ็นยู ได้ร่วมกับนักรบต่อต้านรัฐประหารของกองกำลังปกป้องประชาชน (พีดีเอฟ) เข้ายึดที่ตั้งทางทหารในเมืองนี้ พร้อมกับเผยแพร่ภาพถ่ายอาวุธ และเครื่องกระสุนที่ยึดได้
รายงานข่าวบอกด้วยว่า เคเอ็นยูเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธเก่าแก่ที่สุดในเมียนมา และได้ให้การฝึกอาวุธแก่นักรบของพีดีเอฟ เป็นกองกำลังที่ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (เอ็นยูจี) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของกลุ่มนักการเมืองเมียนมาที่ถูกรัฐประหาร โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน เอ็นยูจี เปิดเผยว่า พีดีเอฟได้ใช้โดรนโจมตีกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เมียนมา’ ทิ้ง 2 ฐานที่มั่นใกล้ชายแดนไทย ปล่อย ‘กะเหรี่ยงแดง’ เข้ายึด
- ‘กะเหรี่ยงคะยา’ เสริมกำลังปิดล้อม ‘เมืองลอยก่อว์’ ยึดที่มั่นทหารเมียนมา
- ‘ยูเอ็น’ ระบุ เหตุสู้รบในเมียนมา ทำคนพลัดถิ่นร่วม 90,000 ราย
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg