ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าคะแนนเสียงจากผู้แทนได้จำนวนผ่านเกณฑ์การเป็นแคนดิเดตพรรคอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ถือเป็นการเปิดฉากการรีแมตช์คู่ชิงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 70 ปี
รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้คะแนนเสียงจากผู้แทนแล้วอย่างน้อย 1,968 เสียง หลังเริ่มมีการทยอยรายงานผลการเลือกตั้งรอบไพรมารีในรัฐจอร์เจีย ส่งผลให้ผู้นำสหรัฐได้เป็นแคนดิเดตของพรรคเดโมแครต นอกจากนี้ จะมีการประกาศผลคะแนนจากรัฐมิสซิสซิปปี รัฐวอชิงตัน หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา และสมาชิกพรรคเดโมแครตที่อยู่ต่างประเทศด้วย
จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา นายทรัมป์คว้าคะแนนเสียงจากผู้แทนได้ 1,215 เสียง ได้เป็นแคนดิเดตของพรรครีพับลิกัน หลังรู้ผลในรัฐฮาวาย มิสซิสซิปปี, วอชิงตัน และจอร์เจีย
หลังทราบผลคะแนนดังกล่าว ประธานาธิบดีไบเดนวัย 81 ปี ออกแถลงการณ์โดยกล่าวโจมตีแคมเปญหาเสียงของนายทรัมป์ว่าเป็น “แคมเปญแห่งความเคียดแค้น การล้างแค้น และการเอาคืน ซึ่งคุกคามแนวคิดพื้นฐานของความเป็นอเมริกา”
“ตอนนี้ผู้ออกเสียงมีทางเลือกที่ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศนี้ เราจะยืนหยัดปกป้องประชาธิปไตย หรือจะปล่อยให้คนอื่นมาทำลาย เราจะฟื้นคืนสิทธิที่จะเลือกและปกป้องเสรีภาพของเรา หรือจะปล่อยให้พวกหัวรุนแรงมาเอาไป” ประธานาธิบดีไบเดนกล่าว
เป็นที่คาดว่านายทรัมป์จะได้เป็นแคนดิเดตของพรรครีพับลิกันอย่างเป็นทางการหลังจากนี้ เมื่อทราบผลคะแนนจากอีก 4 รัฐ โดยนางนิกกี เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คู่แข่งคนสุดท้ายของนายทรัมป์ ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันอย่างเป็นทางการ หลังพ่ายแพ้ให้กับทรัมป์ในแทบทุกรัฐในศึก “ซูเปอร์ทิวส์เดย์”
ทั้งนี้ การรีแมตช์คู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐครั้งล่าสุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2499 โดยประธานาธิบดี ดไวต์ ไอเซนฮาวร์ จากพรรครีพับลิกัน เอาชนะนายแอดเล สตีเวนสัน อดีตผู้ว่า การรัฐอิลลินอยจากพรรคเดโมแครต ได้เป็นครั้งที่ 2
อย่างไรก็ดี โพลจากสำนักข่าวรอยเตอร์/อิปซอส ระบุว่า ทั้งไบเดนและทรัมป์ต่างก็เป็นแคนดิเดตที่ไม่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่
นายทรัมป์เผชิญปัญหาทางกฎหมายรุมเร้า โดยถูกฟ้องข้อหาอุกฉกรรจ์ถึง 91 กระทงใน 4 คดี ซึ่งอาจทำให้นายทรัมป์ประสบปัญหาในการคว้าคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้มีการศึกษาสูงที่อาศัยอยู่บริเวณชานเมือง ส่วนนายไบเดนถูกมองว่าอายุมากเกินไปสำหรับการเป็นประธานาธิบดีต่ออีก 4 ปี แม้พันธมิตรของเขาจะเชื่อว่าการแถลงนโยบายประจำปีอย่างดุเดือดที่ผ่านมา อาจช่วยแก้ปัญหาภาพลักษณ์ด้านนี้ได้ก็ตาม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไบเดน’ แถลงนโยบายประจำปี โจมตี ‘ทรัมป์-ปูติน’ ลั่นไม่ยอมจำนนต่อ การโจมตีประชาธิปไตย
- ‘ทรัมป์-ไบเดน’ กวาดชัยชนะเลือกตั้งขั้นต้น 15 รัฐ 1 ดินแดน ก่อนชิงประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ย.นี้
- โพลชี้ ‘ไบเดน’ คว่ำ ‘ทรัมป์’ รีแมทช์ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 67
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg