ผลสำรวจพบ หากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567 เป็นการแข่งขันกันของคู่ชิงเดิมในปี 2563 ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ไบเดนก็จะยังคงมีชัยชนะเหนือทรัมป์
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญ ที่ระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดน ยังถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพรรคเดโมแครต ในการสู้ศึกเลือกตั้งกับนายทรัมป์ ซึ่งแม้เขาจะมีอายุมาก แต่ก็มีประสบการณ์มานานหลายปี จากการเป็นรองประธานาธิบดี และประธานาธิบดีสหรัฐ ในการรับมือกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในเวทีโลก ในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ยังคงเดินหน้าทำสงครามในยูเครน และจีนยังคงต้องการแผ่อำนาจในภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะในทะเลจีนใต้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดนประกาศตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ (25 เม.ย.) ถึงการลงชิงชัยเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต สู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567
“เมื่อผมประกาศว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อ 4 ปีก่อน ผมเคยบอกว่า เรากำลังทำสงครามสำหรับจิตวิญญาณแห่งอเมริกา และขณะนี้เราก็ยังคงอยู่ในการทำสงครามดังกล่าว”
ปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ก็คือ ในช่วงหลายปีข้างหน้า เราจะมีอิสรภาพมากขึ้นหรือน้อยลง มีสิทธิมีเสียงมากขึ้นหรือน้อยลง ผมรู้ว่าผมต้องการให้คำตอบคืออะไร และผมคิดว่าพวกคุณก็เช่นกัน นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมานิ่งนอนใจ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2″
ปัจจุบัน ประธานาธิบดีไบเดน ถือเป็นผู้นำสหรัฐที่มีอายุมากที่สุดขณะดำรงตำแหน่ง และหากเขาคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งปีหน้า และได้ครองทำเนียบขาวอีก 4 ปี ก็จะทำให้เขามีอายุ 86 ปีขณะสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2
ทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศตัวก่อนหน้านี้ ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ผลสำรวจพบว่า นายทรัมป์ยังคงมีคะแนนนำผู้สมัครคนอื่น ๆ ในการคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน สู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า
ทั้ังนี้ ทรัมป์พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2563 ต่อนายไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต แต่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ โดยอ้างว่าถูกปล้นชัยชนะ ขณะที่มีการโกงเลือกตั้ง
หากนายทรัมป์ และประธานาธิบดีไบเดนต่างประสบความสำเร็จ ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน และเดโมแครต สู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ก็จะเป็นการรีแมทช์คู่ชิงในปี 2563 และถือเป็นการแก้มือของนายทรัมป์ ซึ่งแม้จะเพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้การเลือกตั้งก่อนหน้านี้ แต่คาดว่าเขายังคงมีฐานเสียงจำนวนมาก ที่ยังคงจงรักภักดี และพร้อมที่จะสนับสนุนให้เขากลับเข้าทำเนียบขาวอีกครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปิดฉากโควิด! ‘ไบเดน’ ลงนามกฎหมายยุติ ‘ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ’
- ‘ไบเดน’ จี้บริษัทเทคโนโลยี คุมเข้มความปลอดภัย ‘เอไอ’ หวั่นอันตรายต่อสังคม
- ‘ปูติน’ แถลงนโยบายประจำปีพรุ่งนี้ คาดท่าทีแข็งกร้าว หลัง ‘ไบเดน’ เยือนยูเครน