‘ยูเอ็น’ ร้องนานาชาติ ร่วมมือปิดกั้น ‘การเงิน-อาวุธ’ รัฐบาลเมียนมา

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 2 มีนาคม 2567

ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ “โวลเกอร์ เติร์ก” เรียกร้องประชาคมโลก ร่วมมือดำเนินการอย่างมีเป้าหมาย เพื่อจำกัดการเข้าถึงอาวุธ เชื้อเพลิง และสกุลเงินต่างประเทศของรัฐบาลเมียนมา ในการแก้ไขวิกฤติในเมียนมา ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้

ในการกล่าวต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี)ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันศุกร์ (1 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น นายเติร์ก ยังได้ประณามกฎหมายการเกณฑ์ทหารฉบับล่าสุดของเมียนมา ที่กำหนดให้ผู้ชายทุกคนที่มีอายุ 18 ถึง 35 ปี และผู้หญิงทุกคนที่มีอายุ 18 ถึง 27 ปี ต้องเข้าเป็นทหาร โดยไม่มีกระบวนการอุทธรณ์ใด ๆ

กฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลทหาร กำลังประสบกับความพ่ายแพ้ ในความขัดแย้งกับนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และกลุ่มติดอาวุธทางชาติพันธุ์ทางตอนเหนือของประเทศ

นายเติร์ก บอกว่า ขอย้ำข้อเรียกร้องของเขาอีกครั้งหนึ่ง ที่ให้ประชาคมระหว่างประเทศช่วยกันผลักดันไม่ให้รัฐบาลทหารเมียนมา กระทำการโหดร้ายกับประชาชนในประเทศ รวมถึง ชาวโรฮิงญา ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศด้วย โดยประเทศต่าง ๆ ควรจะป้องกันมิให้กองทัพเมียนมาเข้าถึงอาวุธ เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน เงินตราต่างประเทศที่กองทัพต้องใช้ในการกดดันกวาดล้างพลเรือน

ข้าหลวงใหญ่ยูเอ็นเอชอาร์ซี ยังระบุถึงรายงานการทรมานผู้ต้องขังทางการเมืองในเมียนมาด้วย โดยข้อมูลของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชน ที่อุทิศตนเพื่อความยุติธรรมในเมียนมา ระบุว่า นับตั้งแต่กก่อรัฐประหาร รัฐบาลทหารเมียนมาสังหารประชาชนไปแล้วกว่า 4,000 ราย และมีผู้ถูกจับกุม ถูกตั้งข้อหา หรือตัดสินลงโทษมากกว่า 24,000 ราย

ขณะที่รายงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ชี้ว่า มีผู้เสียชีวิตระหว่างที่ถูกทหารควบคุมตัวอยู่ 1,658 ราย ในอัตรามากกว่าหนึ่งคนต่อวันในเดือนมกราคม