World News

‘เชฟรอน’ ขายสินทรัพย์ ถอนลงทุนออกจากเมียนมา

“เชฟรอน” ประกาศขายสินทรัพย์ในเมียนมาให้กับ “เอ็มทีไอ” บริษัทสัญชาติแคนาดา ในการทำข้อตกลงที่จะทำให้ยักษ์น้ำมันสหรัฐรายนี้ ถอนการลงทุนออกจากเมียนมาทั้งหมด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การทำข้อตกลงดังกล่าว เกิดขึ้น 1 ปีหลังจากที่ เชฟรอน และบริษัทน้ำมันรายอื่น ๆ ตัดสินใจที่จะถอนการลงทุนออกจากเมียนมา หลังกองทัพก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน เมื่อปี 2564 ทั้งยังเกิดขึ้นหลัง เชฟรอน ได้ออกมาประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในเมียนมา

shutterstock 2144800245

การถอนตัวของเชฟรอน ยังเกิดขึ้นหลัง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 โททาลเอนเนอร์ยีส์ ยักษ์น้ำมันฝรั่งเศส ก็ได้ขายสินทรัพย์ และถอนการลงทุนออกจากเมียนมาเช่นกัน

โดยในครั้งนั้น เชฟรอน ระบุว่า บริษัทได้ดำเนินการพิจารณาถึงการลงทุนในโครงการยาดานา เพื่อการวางแผน และเปลี่ยนถ่ายอย่างราบรื่น อันจะนำไปสู่การถอนตัวออกจากประเทศนี้

อย่างไรก็ดี เชฟรอนไม่ได้เปิดเผยว่า ได้ขายหุ้น 41.1% ที่ถืออยู่ในแหล่งน้ำมันยาดานา ของเมียนมา ไปด้วยมูลค่าเท่าใด

แต่เดิมนั้น เชฟรอนถือหุ้นอยู่ในโครงการยาดานา จำนวน 28% แต่ได้รับซื้อหุ้นมาจาก โททาลเอนเนอร์ยีส์ มาถือไว้ชั่วคราว ทำให้มีหุ้นเพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวนดังกล่าว

การรับซื้อหุ้นดังกล่าว ยังมีเป้าหมาย เพื่อให้สามารถควบคุมแหล่งก๊าซแห่งนี้ได้มากขึ้น และลดผลประโยชน์ ที่ “เอ็มโอจีอี” บริษัทน้ำมันแห่งชาติเมียนมา หนึ่งในผู้ร่วมทุนโครงการนี้ ที่ผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้ในประเทศ และส่งออกไปยังไทย จะได้รับต่อไปในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo