สิงห์ เอสเตท เผยท่องเที่ยวฟื้น หนุนธุรกิจโรงแรมรายได้พุ่ง 2 เท่า พลิกทำกำไร หลังจากขาดทุน 238 ล้านบาท ดันภาพรวมเติบโต 65%
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า ผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2565 สิงห์ เอสเตท มีรายได้ 8,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
การเพิ่มขึ้นของรายได้รวมดังกล่าว มีสาเหตุหลักจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งรายงานที่ 6,123 ล้านบาท เติบโต 121% จากงวด 9 เดือนปี 2564 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของผลประกอบการของโรงแรมทั้ง 4 พอร์ตโฟลิโอ
ทั้งนี้ นำโดยผลประกอบการที่โดดเด่นในโครงการ CROSSROADS Maldives ซึ่งสามารถรักษาอัตราการเข้าพักได้อย่างแข็งแกร่งเฉลี่ยที่ระดับ 67% อีกทั้งยังสามารถปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ได้เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เช่นเดียวกันกับพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักรที่ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแรง ส่งผลให้ ADR เพิ่มขึ้นสู่ระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานมา และผลักดันให้รายได้เฉลี่ยต่อคืน (RevPAR) ในงวด 9 เดือนของปี ปรับตัวขึ้นไปสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ถึง 19%
นอกจากนั้นแล้ว บริษัทฯ เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนของการท่องเที่ยวในสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ และสาธารณรัฐมอริเชียส จากความแข็งแกร่งของปริมาณความต้องการท่องเที่ยวที่คงค้างมาตั้งแต่ปีก่อน รวมถึงจุดขายที่โดดเด่นของโรงแรม ส่งผลให้พอร์ตโรงแรม Outrigger ฟื้นตัวโดดเด่นที่สุดด้วย ADR ที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562
ขณะเดียวกัน ยังเสริมทัพด้วยรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าจำนวน 767 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 6% ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าขึ้นได้ แม้จะอยู่ระหว่างสถานการณ์ที่ท้าทาย รวมถึงอัตราการปล่อยเช่าของอาคาร เอส เมโทร (S Metro) ที่ปรับตัวสูงขึ้นถึง 93% ภายหลังการรีแบรนด์และปรับปรุงอาคารใหม่
สำหรับผลประกอบการที่น่าพอใจในไตรมาสที่ 3 นี้ มีกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท นับเป็นการบันทึกกำไรติดต่อกันสองไตรมาสของสิงห์ เอสเตท ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมผ่านบริษัทฯ ย่อย SHR พลิกฟื้นกลับมามีกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ที่มีผลขาดทุน 238 ล้านบาท
ส่วนในไตรมาสที่ 4 เชื่อว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2565 ซึ่งจะถูกผลักดันโดยผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของโรงแรมในประเทศไทย โดยเห็นภาพการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวชัดเจนภายหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
ผนวกกับศักยภาพของโรงแรมที่ตั้งอยู่ในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุด และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโรงแรมของเรา ส่งผลให้ occupancy rate ในเดือนตุลาคมของโรงแรม ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ และโรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต พุ่งขึ้นที่ 81% และ 77% ตามลำดับ
สำหรับการเปิดตัวโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ โครงการแนวราบใหม่ล่าสุดในคอนเซป Horizontal Luxury House ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 28 แปลง ด้วยราคา 65-180 ล้านบาท ที่วางแผนจะเปิดการขายภายในช่วงปลายปี 2565 จนถึงปัจจุบัน โครงการได้ถูกขายไปแล้วกว่า 95% ของมูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายการโอนกรรมสิทธิ์โครงการระหว่างไตรมาส 4 ปี 2565 จนถึงไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งจะเป็น 1 ในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันรายได้ของธุรกิจที่พักอาศัยให้เพิ่มขึ้นกว่า 50% ในปีหน้า หนุนด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ ในอีก 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ระดับราคาตั้งแต่ 10-50 ล้านบาท ที่พร้อมเปิดขายตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ปี 2566 จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 7,700 ล้านบาท
ในอนาคต สิงห์ เอสเตท ตั้งเป้าเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในช่วง 5 ปีหลังจากนี้อย่างต่อเนื่องปีละ 3-4 โครงการ มีมูลค่ารวม 7,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมประกาศเดินหน้ารุกตลาดบ้านแนวราบอย่างเต็มตัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สิงห์ เอสเตท เดินหน้าลุยสร้างนิคมฯ ‘เอส อ่างทอง’ รับเกษตร-อาหารรุ่ง คาดเสร็จปี 66
- ‘นักท่องเที่ยว’ ทะลักสุวรรณภูมิ ประชุมเอเปค ตม. ‘เข้มคัดกรอง’ หวั่นคนร้ายแฝงตัว
- ‘นักท่องเที่ยวมาเลเซีย’ เข้าไทยทะลุ 1 ล้านคน เป็นชาติแรก ททท. พร้อมรุกตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้