ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความผันผวน โดย “ดาวโจนส์” พลิกกลับมาอยู่ในแดนบวกได้อีกครั้ง แรงหนุนจากการเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังเมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) ทรุดแรง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 35,342.41 จุด ปรับขึ้น 100.82 จุด หรือ 0.29% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,495.27 จุด ลดลง 8.81 จุด หรือ 0.20%และดัชนีแนสแด็กที่ 14,126.91 จุด ขยับลงมา 58.73 จุด หรือ 0.41%
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 500 จุดวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งขึ้นดอกเบี้ย ทั้งยังถูกกดดันจากการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 1% ภายในเดือนกรกฎาคม
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมีนาคม หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี และเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาเชื่อว่าเฟดยังคงสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ย “ได้อีกมาก” โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมีนาคม จากเดิมที่เคยให้น้ำหนักเพียง 14% นี้ นักลงทุนยังให้น้ำหนัก 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.00% ภายในเดือนมิถุนายน
โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้ง หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ หมายความว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สมาคมนักวิเคราะห์ฯ ‘เฟ้น 5 หุ้นเด่น’ ปี 2565 – วางเป้า SET แตะ 1,760 จุด
- เจาะพอร์ตธุรกิจ Non-Oil ของ ‘ OR ‘ สู่การเติบโตที่มากกว่าน้ำมัน!!
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ ยืนยันยุติ ‘คิวอี’ ตามแผนเดิม