ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (23 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลง 135.18 จุด เจอแรงเทขายทำกำไร หลังหุ้นพุ่งแรงเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 37,866.63 จุด ร่วงลง 135.18 จุด หรือ 0.36% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,848.51จุด ลดลง 1.92 จุด หรือ 0.04% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 15,356.24 จุด ลบ 4.05 จุด หรือ 0.03%
นักลงทุนเทขายทำกำไรในวันนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้เหนือระดับ 38,000 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นบริษัทผลิตชิปที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันศุกร์ (19 ม.ค.)
การซื้อขายในวันนี้ ยังถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวเหนือระดับ 4.1% ขณะที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ในเดือนพฤษภาคม จากเดิมที่คาดว่า จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม
การเปลี่ยนแปลงคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด และเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 มกราคมนี้ และให้น้ำหนัก 56.5% ที่เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมวันที่ 19-20 มีนาคม
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 52.7% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 30เมษายน-1 พฤษภาคม หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 17.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นักลงทุน หั่นคาดการณ์ ‘เฟด’ เริ่ม ‘ลดดอกเบี้ย’ มี.ค. 67 หวั่นนโยบายพลิก
- จับตา! ‘บิตคอยน์’ จ่อทะลุ 1 แสนดอลล์ปี 67 อานิสงส์เฟดลดดอกเบี้ย-สหรัฐไฟเขียวขาย ETF
- ‘ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ’ สูง ฉุด ‘เศรษฐกิจโลก ปี 2567’ ไม่รุ่งเหมือนคาด
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg