หลังจากในปี 2566 เศรษฐกิจโลก ที่ค่อย ๆ หลุดพ้นจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 แสดงให้เห็นถึง การเติบโตที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่คาดการณ์กันไว้ แต่ในปี 2567 นี้ หลายฝ่ายกลับมองว่า ภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลก กำลังแสดงสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ในการคาดการณ์ล่าสุด ฟิทช์ เรทติ้งส์ ชี้ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลก ปี 2567 จะลดลงเหลือ 2.1% จากที่คาดว่าจะเติบโต 2.9% ในปี 2566 โดยเศรษฐกิจโลก จะตกอยู่ในสถานะชะลอตัว แต่ไม่ถึงขั้นก้าวสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ฟิทช์ ชี้ว่า เศรษฐกิจที่ชะลอการเติบโตลงในปีนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายในหลายด้าน รวมถึง วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ของจีน ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก เช่นเดียวกับที่นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์ในสหรัฐ และยุโรป
ไอเอ็มเอฟ-โออีซีดี ประสานเสียง ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ ฉุดเติบโต
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจโลกกำลังสูญเสียแรงกว่งตัว เมื่อต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครน และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ขยายวงกว้างขึ้น
ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า ในปี 2567 เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงเหลือ 2.9% โดยการชะลอตัวนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โลกยังไม่ได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากโรคโควิด-19 ที่สร้างความเสียหายร้ายแรงแต่เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ ในปี 2563
เหตุการณ์น่าตกใจหลายครั้ง รวมถึงการระบาดใหญ่ของโควิด และการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ส่งผลให้ผลผลิตทางเศรษฐกิจทั่วโลกลดลงประมาณ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับแนวโน้มก่อนเกิดโควิด
ปิแอร์-โอลิเวียร์ กูรินชา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ มองว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเดินอย่าง “กะโผลกกะเผลก” แม้ในช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ และบรรดาะนาคารกลางทั่วโลก พากันขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ จะแสดงให้เห็นถึง “ความยืดหยุ่นอย่างน่าทึ่ง” ก็ตาม
ความเห็นของไอเอ็มเอฟ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ที่มองว่า ความขัดแย้งในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง จะทำให้เศรษฐกิจโลก ในปี 2567 ลดการเติบโตลง
โออีซีดี ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้ จะขยายตัว 2.7% ซึ่งถือเป็นการเติบโตช้าสุด นับแต่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโควิด-19
กระนั้นก็ตาม แม้แนวโน้มเศรษฐกิจจะดูมืดมนลง แต่โออีซีดี ยังคาดการณ์ว่า เกือบทุกประเทศทั่วโลก จะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะยังสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาสและสงครามรัสเซียในยูเครน อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน หรือธัญพืช
เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำและเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ซึ่งทำให้คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงเล็กน้อยในปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขณะเงินเฟ้อปรับตัวลงจากระดับสูงสุดของปีที่แล้ว และคาดว่าเงินเฟ้อในประเทศส่วนใหญ่จะกลับสู่เป้าหมายของธนาคารกลางภายในปี 2568
โกลด์แมน แซคส์ เห็นต่าง ปี 2567 เศรษฐกิจแกร่ง
ในทางกลับกัน วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ “โกลด์แมน แซคส์” มองว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์กันไว้ แรงหนุนจากรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นที่ว่าภาวะเลวร้ายที่สุดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้สิ้นสุดลงแล้ว
โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.6% ในปี 2567 ตามค่าเฉลี่ยรายปี โดยสหรัฐมีแนวโน้มจะขยายตัวมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ อีกครั้งด้วยการขยายตัว 2.1%
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า แรงฉุดจากนโยบายคุมเข้มทางการเงิน และการคลังนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว ทั้งยังมองว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ไม่น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก่อนถึงครึ่งหลังของปี 2567 เว้นเสียแต่ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอ่อนแอกว่าที่มีการประมาณการไว้
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ระบุด้วยว่า เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงแบบต่อเนื่องในกลุ่มประเทศ G10 และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และมีแนวโน้มจะลดลงอีก
“นักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2567 หลังเริ่มลดลงในปี 2566 โดยเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มจะลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 3% สู่ระดับเฉลี่ยที่ 2-2.5% ในกลุ่มประเทศ G10 ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่น”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ย้อนความทรงจำ กับ 10 ข่าวเด่นร้อนแรงรอบปี 2566
- 10 ข่าวเด่นเศรษฐกิจ รอบปี 2566 ปีแห่งความท้าทายหลังโควิด
- ส่องด่วน!! 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2567 อีคอมเมิร์ซ พุ่งแรง โทรศัพท์พื้นฐาน ร้านเช่าหนังสือ ฟุบ