Stock

CKP กำไรดีกว่าคาด โบรกฯ อัพประมาณการกำไรทั้งปี แนะลงทุนระยะยาว

เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่รายงานผลประกอบการช่วงไตรมาส 3 ของปี 2566 ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สำหรับหุ้น CKP หรือ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในกลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังน้ำ 

สำหรับภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3/66 CKP มีรายได้รวม 2,649 ล้านบาท ลดลง 24.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,022 ล้านบาท ลดลง 30.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

xayaburi 13

ส่งผลให้งวด 9 เดือนของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่  7,901 ล้านบาท ลดลง 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิรวม 919 ล้านบาท ลดลง 61.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สาเหตุหลักของกำไรที่หดตัวลงนั้นมาจากปริมาณการขายไฟฟ้าที่ลดลงตามปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และค่าใช้จ่ายทางการเงินของบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) ที่สูงขึ้นตามแนวโน้มดอกเบี้ยโลก ขณะที่ โครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ก็มีรายได้จากการขายไฟฟ้าลดลง และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากงานซ่อมบำรุงใหญ่ 

มุมมองของบริษัทระบุว่าแม้ในช่วงที่ผ่านมา จะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ แต่สถานการณ์ปริมาณน้ำมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ทำให้บริษัทสามารถปรับแผนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี

xayaburi 02

อย่างไรก็ดี แม้ว่างบไตรมาสของ CKP จะมีกำไรที่ปรับตัวลดลงถึง 30% แต่ตัวเลขดังกล่าวถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ซึ่งดีกว่าที่ บล. ดาโอ คาดไว้ถึง 17% และดีกว่าที่ บล. หยวนต้า คาดไว้ 15% เนื่องจากสถานการณ์น้ำที่ไซยะบุรีดีกว่าที่ประเมินไว้ ประกอบกับต้นทุนก๊าซธรรมชาติ และส่วนแบ่งขาดทุนจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ที่น้อยกว่าคาด 

ทว่า บล. ดาโอ ยังคงคำแนะนำ ถือ” หุ้น CKP  ราคาเป้าหมาย 3.90 บาทต่อหุ้น เนื่องจากยังต้องรอติดตามสถานการณ์เอลนีโญในปี 2566 ว่าจะพีคในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมหรือไม่ จึงยังคงประมาณการกำไรปกติปีนี้ไว้ที่ 849 ล้านบาท

ส่วนกรณีที่ราคาหุ้นกลับมา outperform SET ราว 3% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มองว่ามาจากผลประกอบการที่กำลังเข้าสู่ High Season 

แต่ในฝั่งมุมมองของ บล. หยวนต้า ค่อนข้างมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น CKP มากกว่า โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 4/66 จะกลับมาเติบโต เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 ที่ระดับ 200-300 ล้านบาท ถึงแม้ต้นทุนทางการเงินของโรงไฟฟ้าไซยะบุรีจะสูงขึ้น ตามอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

แต่จะได้อานิสงส์จากฤดูมรสุมที่มาช้ากว่าปกติ ทำให้ปริมาณน้ำในลาวสูงขึ้น หนุนรายได้จากโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรี ขณะที่ต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงจากฐานที่สูงในปีก่อน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มขยายตัว 

nam ngum3

ดังนั้น จึงปรับประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้น 27% เป็น 1,131 ล้านบาท เพื่อสะท้อนงบไตรมาส 3/66 ที่ดีกว่าคาด และแนวโน้มการเติบโตของกำไรไตรมาส 4/66 นอกจากนี้ คาดประมาณการกำไรปี 2567 ที่ 1,110 ล้านบาท

จึงคงคำแนะนำ  “ซื้อ” หุ้น CKP ราคาเป้าหมาย 4.10 บาทต่อหุ้น โดยมี Upside ประมาณ 28.9% โดยราคาปัจจุบันซื้อขายบน PBV ปี 2567 เพียง 0.9 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี -2SD จึงมองว่าหุ้นเริ่มมี Downside จำกัดแล้ว

รวมทั้งเชื่อว่าในระยะกลาง-ยาว ราคาหุ้น CKP จะฟื้นตัวได้จากการปรับตัวลงของ Bond Yield ระยะ 10 ปี ของไทย เป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน