Business

ปริมาณน้ำฝนเพิ่ม หนุน ‘CKPower’ ฟื้นตัว

 ประเมิน “CKPower” ฟื้นตัว จากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มมากขึ้น หลังผ่านพ้นภาวะภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญ

หุ้น CKP หรือ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ทำราคาปรับตัวลงไปมากตั้งแต่ต้นปี โดยราคาหุ้นลดลงถึง 25.66% เนื่องจากผลประกอบการที่ขาดทุน  102.49 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก 2566 เพราะการเผชิญกับภาวะภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญ

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเราเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของหุ้น CKP โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นขยับตัวขึ้นมา 4% สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่ดูเหมือนว่า จะพลิกฟื้นกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ การไหลของน้ำที่แข็งแกร่งขึ้น สำหรับการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำให้ทำงานในอัตราการดำเนินงานที่สูงขึ้น รวมถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย

ทั้งนี้ มุมมองของบทวิเคราะห์ บล. เมย์แบงก์ ประเมินว่าแนวโน้มผลประกอบไตรมาส 3/2566 ของ CKP จะฟื้นตัวดีขึ้นและมีกำไรที่โดดเด่นขึ้นสู่ระดับ 925 ล้านบาท มากกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทททำกำไรได้เพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น

น้ำฝน

น้ำฝนเพิ่มขึ้น หลังผ่านพ้นภาวะภัยแล้ง

สาเหตุหลักของการฟื้นตัว มาจากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มมากขึ้น หลังผ่านพ้นภาวะภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ส่งผลกระทบให้ฝนตกน้อยกว่าปกติ เพราะฉะนั้น เมื่อฝนกลับมาก็จะช่วยหนุนให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าพลังงาน น้ำงึม 2 มีปริมาณขายไฟฟ้าที่ดีขึ้น สู่ระดับ 2,382 GWh และ 425 GWh ตามลำดับ ในขณะที่โรงไฟฟ้า BIC และ BKC คาดจะมีปริมาณขายไฟฟ้าใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน

นอกจากนี้ เขื่อนสำคัญในประเทศจีนที่มีอิทธิพลต่อแม่น้ำโขง ซึ่งอยู่เหนือโรงไฟฟ้าไซยะบุรี คือ Xiaowan และ Nuozhadu นั้นมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและคิดเป็น 77% ของความจุ รวมถึงเขื่อนน้ำงึม 2 มีปริมาณเก็บน้ำคิดเป็น 85% ของความจุ โดยในอนาคตคาดจะเก็บน้ำเพิ่มขึ้นได้อีก

เพราะปกติแล้วจะหมดฤดูฝนในช่วงปลายเดือนตุลาคม จึงคาดว่าจะช่วยหนุนการผลิตไฟของโรงไฟฟ้าไซยะบุรีและน้ำงึม 2 ในช่วงหน้าแล้งตอนปลายปี 2566 ต่อเนื่องไปถึงต้นปี 2567 อีกทั้งคาดว่าสถานการณ์ฝนในปี 2567 จะดีกว่าปี 2566 ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจของ CKP ดีขึ้นตามลำดับ

น้ำฝน

โดยบทวิเคราะห์ประมาณการกำไรปี 2566 ของ CKP เท่ากับ 932 ล้านบาท ปรับลดลง 61% จากปีก่อน ส่วนปี 2567 สถานการณ์ต่างๆ จะผ่อนคลายขึ้น คาดบริษัทจะมีกำไรอยู่ที่ระดับ 1,829 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 96%

ดังนั้น จึงให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CKP ราคาเป้าหมาย 12 เดือนที่ 4.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัพไซด์ประมาณ 31% โดยปัจจุบันหุ้นซื้่อขายบน Valuation ในโซนที่ถูก อ้างอิง P/E ปี 2567 เท่ากับ 15.3 เท่า (-1.3 S.D.) และ P/BV ปี 2567 เท่ากับ 1 เท่า(-1 S.D.)

น้ำฝน

ทั้งนี้ CKP ถือเป็นแกนนำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของ “กลุ่ม ช.การช่าง”  ปัจจุบันได้ลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจําหน่ายไฟฟ้าในโรงไฟฟ้า 3 ประเภท ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ โรงไฟฟ้าระบบโคเจเนอเรชั่น และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งมากกว่า 2,167 เมกะวัตต์

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน