Stock

‘ONEE’ ท็อปพิก ‘หุ้นสื่อ’ รับไฮซีซั่นเม็ดเงินโฆษณาฟื้น

 “นีลเส็น”เผยเม็ดเงินโฆษณาครึ่งปีแรกมีมูลค่าอยู่ที่ 55,530 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.16% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สื่อทีวียังคงมีอิทธิพลมากที่สุด  “ONEE” ท็อปพิก “หุ้นสื่อ” รับไฮซีซั่นเม็ดเงินโฆษณาฟื้น

ภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ถือว่าไม่เติบโต ข้อมูลจาก บริษัท นีลเส็น (ประทศไทย) จำกัด ระบุว่าเม็ดเงินโฆษณาครึ่งปีแรกมีมูลค่าอยู่ที่ 55,530 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ถดถอย มูลค่าเม็ดเงินโฆษณาระหว่างมกราคม – มิถุนายน 2566 สื่อทีวียังคงมีอิทธิพลมากที่สุด

โดยมีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดที่ 57% คิดเป็นมูลค่า 29,368 ล้านบาท แต่เป็นการปรับลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามมาด้วยอินเทอร์เน็ต (DAAT) มูลค่า 13,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% Outdoor & Transit มูลค่า 7,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% ส่วนที่เหลือจะเป็นวิทยุ สิ่งพิมพ์ โรงภาพยนตร์ และสำรวจสื่อโฆษณาในห้าง

เม็ดเงินโฆษณา โฆษณาครึ่งปีแรก

อุตสาหกรรมที่มีการใช้เงินมากที่สุด ได้แก่

1.  อาหารและเครื่องดื่ม มูลค่า 8,555 ล้านบาท

เม็ดเงินโฆษณา

2. กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย มูลค่า 7,603 ล้านบาท

3. ร้านค้าปลีก/ร้านอาหาร มูลค่า 5,364 ล้านบาท

4. มีเดียและการตลาด มูลค่า 2,622 ล้านบาท

5. ยา มูลค่า 2,440 ล้านบาท

6. การเงิน มูลค่า 1,989 ล้านบาท

7. ยานยนต์ มูลค่า 1,879 ล้านบาท

8. ผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน มูลค่า 1,594 ล้านบาท

9. ภาครัฐ มูลค่า 1,209 ล้านบาท

10. โทรคมนาคม มูลค่า 1,175 ล้านบาท

ขณะที่อุตสาหกรรมที่มีการเพิ่มเม็ดเงินโฆษณาในช่วงครึ่งปี เรียงลำดับตามมูลค่าเม็ดเงินโฆษณา คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย

เม็ดเงินโฆษณา

 

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ บล.ดาโอ ระบุว่า การที่นีลเส็นเปิดเผยเม็ดเงินโฆษณาครึ่งแรกปี ว่ามีมูลค่าเม็ดเงินลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นปีที่เรียกได้ว่าเศรษฐกิจถดถอย แต่นักการตลาดไทยยังคงมีการใช้จ่ายโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อเม็ดเงินโฆษณาที่เป็นไปตามคาด

อย่างไรก็ตาม มองว่าเม็ดเงินโฆษณาตลอดทั้งปี 2566 จะขยายตัวที่ระดับ 4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ คาดว่าจะหนุนให้กลุ่ม FMCG ใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศ

สำหรับหุ้นในกลุ่มสื่อทางนักวิเคราะห์ บล.ดาโอ เลือกหุ้น ONEE หรือ บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เป็น Top Pick โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 6.00 บาทต่อหุ้น

ด้าน บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของหุ้น ONEE ในไตรมาส 1/2566 ที่ผ่านมา คือจุดตํ่าสุด ถ้าดูจากตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาในเดือนเมษายนและพฤษภาคม จะเห็นภาพการฟื้นตัวที่ชัดเจน ทําให้มองว่ากําไรสุทธิของบริษัทในไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 115 ล้านบาท เติบโต 122.4% QoQ แต่ยังลดลง 35.8% YoY ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังนั้น ผู้บริหารคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากแรงหนุนของเม็ดเงินโฆษณา  อย่างไรก็ตาม ความกังวลหลัก ๆ ในตอนนี้คือความไม่แน่นอนทางการเมือง

เม็ดเงินโฆษณา

นอกจากนี้ ONEE ยังมีในส่วนของธุรกิจ Function Drink ที่เป็นการ JV ของ 3 บริษัท คือ MASCOT (33% เชี่ยวชาญทางด้านการคิดสูตรอาหารและเครื่องดื่ม), ONEE (33%, ด้านการโปรโมตสินค้า) และ NSL (33%, ด้านกระจายสินค้า) โดยทาง ONEE ใส่เงินลงทุนไป 20 ล้านบาท ปัจจุบันกระจายสินค้าไปครบ 7-Eleven ทุกสาขาแล้ว และคาดหวังรายได้ครึ่งปีหลังที่ 300 ล้านบาท คาดกำไรขั้นต้น 12-18% จากผลตอบรับในช่วงแรกถือว่าดีกว่าที่คาดไว้มาก ทำให้บริษัทคาดว่าสิ้นปีนี้จะ Breakeven ได้สำเร็จ

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ONEE แนะนำให้นักลงทุนใช้จังหวะที่เริ่มเห็นความชัดเจนด้านการเมืองในการเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง ประเมินราคาเป้าหมายที่ 5.6 – 6.3 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PE Ration ที่ 24.6x-27.5x หรือ -1SD ถึง -0.5SD ส่วนความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือความไม่แน่นอนด้านการเมืองซึ่งจะกระทบการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาทีวี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน