Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดดิ่งหนัก 574.98 จุด ผวา! ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ แรงเกินคาด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (7 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งแรงเกือบ 600 จุด หลัง “เจอโรม พาวเวล” ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าคาด เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมาย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,856.46 จุด ร่วงลง 574.98 จุด หรือ -1.72% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,986.37 จุด ลดลง 62.05 จุด หรือ -1.53% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 11,530.33 จุด ร่วงลง 145.40 จุด หรือ -1.25%

ดาวโจนส์

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีร่วงลงกว่า 1% หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปี ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ บ่งชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้าย (Terminal Rate) ของเฟดจะอยู่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และหากข้อมูลทั้งหมดบ่งชี้ว่าเฟดควรคุมเข้มนโยบายการเงินให้เร็วขึ้น เฟดก็จะเพิ่มความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เขาบอกด้วยว่า แม้ว่าเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงหลังจากแตะจุดสูงสุดในปีที่แล้ว แต่กระบวนการที่จะทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่ระดับเป้าหมาย 2% ยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกลและไม่ราบรื่น และภารกิจในการต่อสู้เงินเฟ้อของเฟดยังไม่สิ้นสุด จำเป็นต้องคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ข้อมูลจากFedWatch Tool ของซีเอ็มอี กรุ๊ป บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 51.3% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% มาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มีนาคมนี้ และให้น้ำหนักเพียง 48.7% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินซึ่งมีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ร่วงลง 2.5%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีซึ่งเป็นพันธบัตรที่สะท้อนถึงการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น พุ่งขึ้นแตะระดับ 5% เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2550 สร้างแรงกดดันต่อหุ้นเติบโต (Growth Stocks) โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อีกทั้งต้องพึ่งพาผลกำไรและการเติบโตในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo