World News

‘ไอเอ็มเอฟ’ ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 66 ขยายตัว 2.9% คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโต 3.7%

“ไอเอ็มเอฟ” เผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด คงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทย ปี 2566 ไว้ที่ 3.7% พร้อมปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลก มาอยู่ที่ 2.9% อานิสงส์จีนเปิดประเทศ 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) โดยคงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทย ปี 2566 และ 2567 ไว้ในระดับเดิมที่ 3.7% และ 3.6% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

เศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยของ 5 ประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ลงมาอยู่ที่ 4.3% และ 4.7% สำหรับปีหน้า ลดลง 0.2% จากการประเมินเมื่อเดือนตุลาคม 2565

นอกจากนี้ ยังประเมินว่า เศรษฐกิจอินเดีย จะขยายตัว 6.1% ในปีนี้ ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยขยายตัว 6.8% ในปี 2567

รายงานระบุว่า เศรษฐกิจอินเดีย และเศรษฐกิจเฉลี่ยของ 5 ประเทศสมาชิกอาเซียน มีแนวโน้มชะลอการเติบโตลงในปีนี้ เพราะถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ก่อนจะขยายตัวเร็วขึ้นในปี 2567 แม้ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุด จะต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก็ตาม

สำหรับเศรษฐกิจจีนนั้น ไอเอ็มเอฟ คาดว่า จะขยายตัว 5.2% ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.8% จากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ในเดือนตุลาคม แรงหนุนจากการเปิดประเทศอีกครั้ง หลังใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์นานถึง 3 ปี โดยเศรษฐกิจจีนขยายตัวเพียง 3% ในปี 2565 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปีที่เศรษฐกิจจีนขยายตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก

พร้อมกันนี้ ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกว่า จะขยายตัวที่ 2.9% ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.2% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ครั้งก่อน ซึ่งแม้จะเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้ากว่าเมื่อปี 2565 แต่ก็ดีกว่าที่เคยคาดเอาไว้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

ขณะเดียวกัน ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชีย มีแนวโน้มขยายตัวแซงหน้าประเทศพัฒนาแล้ว โดยเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียมีแนวโน้มขยายตัว 5.3% ในปี 2566 เทียบกับเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วที่มีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.2%

เศรษฐกิจโลก

นายปิแอร์ โอลิเวอร์ กูรินชาส์ ผู้อำนวยการแผนกวิจัยไอเอ็มเอฟ ระบุว่า จีนและอินเดียเมื่อรวมกันแล้ว คิดเป็นสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้

“การที่จีนเปิดประเทศแบบฉับพลัน ช่วยหนุนให้กิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ภาวะการเงินโลกก็กระเตื้องขึ้น เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มลดลง ส่วนดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจากระดับสูงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ช่วยลดความตึงเครียดให้กับตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาพอสมควร”

เขาบอกด้วย แม้เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวมากกว่าที่เคยคาดเอาไว้ แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกหลายอย่าง แต่เชื่อว่าวิกฤติเศรษฐกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และอัตราเงินเฟ้อก็เริ่มปรับตัวลดลง โดยเฉพาะเยอรมนี และอิตาลี ที่ไอเอ็มเอฟมองว่า รอดพ้นภาวะเศรษฐกิจถอยไปได้แล้วในปีนี้ ขณะที่ยุโรปเองก็ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาด แม้จะมีวิกฤติสงครามยูเครนก็ตาม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo