Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดร่วง 348.99 จุด หวั่น ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยนาน ฉุดเศรษฐกิจถดถอย

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (22 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลงกว่า 300 จุด ส่วน “แนสแด็ก” ดิ่งลงกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ จะผลักดันให้ “เฟด” เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,027.49 จุด ร่วงลง 348.99 จุด หรือ -1.05% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,822.39 จุด ลดลง 56.05 จุด หรือ -1.45% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,476.12 จุด ดิ่งลง 233.25 จุด หรือ -2.18%

ดาวโจนส์

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.2% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.6% และ 2.9% ตามลำดับ

การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการลดลงของตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐ ซึ่งตัวเลขที่ออกมานี้ ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค

ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย มาอยู่ที่ 216,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 6,000 ราย มาอยู่ที่ 1.672 ล้านราย

นักวิเคราะห์ ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลแรงงาน จะยิ่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย เพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ แต่ความเสี่ยงที่จะตามมาคือเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยมากเกินไป และเป็นเวลานานเกินไป

การจะหยุดวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้นั้น เฟดจะต้องเห็นว่าตลาดแรงงานและเศรษฐกิจอ่อนแรงลงมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงอย่างยั่งยืน

ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Pพีซีอี) ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีพีซีอีจะบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo