Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดร่วง 162.92 จุด กังวล ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ย ฉุดเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐให้เข้าสู่ภาวะถดถอย

ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,757.54 จุด ลดลง 162.92 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,817.66 จุด ลดลง 34.70 จุด หรือ -0.90% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,546.03 จุด ลดลง 159.38 จุด หรือ -1.49%

ดาวโจนส์

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป แม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแอลงก็ตาม

นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวของเฟดกำลังขัดขวางบรรยากาศการซื้อขายในช่วงปลายปี โดยเอ็ด โมยา นักวิเคราะห์จากบริษัท Oanda กล่าวว่า “เฟดใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวด ขณะที่นายเจอโรม พาวเวลส่งสัญญาณได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4% ภายในเวลา 9 เดือน ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย”

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.5% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือนตุลาคม

นอกจากนี้ คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ จะปรับตัวขึ้น 4.7% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 5.0% ในเดือนตุลาคม

ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo