Stock

กังวล ‘เศรษฐกิจถดถอย’ เกาะติดตลาด ทุบ ‘ดาวโจนส์’ ร่วงกว่า 300 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (6 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลงกว่า 300 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบ “ธนาคารกลางสหรัฐ” เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย รวมทั้งการที่ผู้บริหารธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐออกมาเตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,596.34 จุด ร่วงลง 350.76 จุด หรือ -1.03% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,941.26 จุด ลดลง 57.58 จุด หรือ -1.44% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 11,014.89 จุด ร่วงลง 225.05 จุด หรือ -2.00%

ดาวโจนส์

นายเจมี ไดมอน ซีอีโอ เจพีมอร์แกน เชส ออกมาบอกว่า วิกฤติเงินเฟ้อกำลังกัดกร่อนทุกสิ่ง และอาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า พร้อมกับกล่าวว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดที่ 5% ก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะสกัดเงินเฟ้อ

ส่วนนายไบรอัน มอยนิฮาน ซีอีโอ แบงก์ ออฟ อเมริกา กล่าวในการประชุมด้านการเงิน ซึ่งจัดขึ้นโดยโกลด์แมน แซคส์ คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงเล็กน้อยเป็นเวลานานถึง 3 ไตรมาสในปีหน้า เช่นเดียวกับที่นายเดวิด โซโลมอน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลง และขณะนี้ลูกค้าของธนาคารมีความกังวลในเรื่องนี้อย่างมาก

คำเตือนของบรรดาผู้บริหารธนาคารรายใหญ่ เป็นไปในทางเดียวกับที่ผู้บริหารของบริษัทแบล็คร็อค และผู้บริหารของสถาบันการเงินรายอื่น ๆ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า การที่เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก เพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยลงในปีหน้า

นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย จนทะลุระดับ 5.0% ในกลางปีหน้า หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แม้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มาแล้วถึง 4 ครั้งติดต่อกัน

ผลข้างต้น บ่งชี้ว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมา ยังสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงานไม่ได้ ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า เพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

FedWatch Tool ของ CME Group แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพฤษภาคม 2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo