Stock - Finance

5 หุ้นแนะนำ สำหรับออมแบบ ‘DCA’ ในไตรมาส 4/65

DCA หรือ Dollar-Cost Averaging คือ วิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย โดยเป็นการทยอยนำเงินไปลงทุนเป็นงวดๆ ด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กัน โดยไม่สนใจความผันผวนของมูลค่าระหว่างทาง เพื่อเป้าหมายสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวจากการลงทุนที่สม่ำเสมอ

ข้อดีของ DCA ช่วยให้เราตัดอารมณ์ความรู้สึกออกไป และเป็นการฝึกวินัยทางการลงทุนได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ดี สินทรัพย์ที่เหมาะกับการ DCA ก็ควรเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มของราคาที่จะสูงขึ้นในอนาคต และราคาไม่ผันผวนมากจนเกินไป เช่น หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี หรือการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีผู้จัดการกองทุนคอยดูแล

ใครที่กำลังมองหาหุ้นสำหรับออมแบบ DCA บทความนี้ได้รวบรวม 5 หุ้นที่แนะนำโดย บล.กสิกรไทย (Ksecurities) สำหรับ DCA ในช่วงไตรมาส 4/2565 มีดังนี้

5 หุ้นแนะนำ e1665370307130

1. ADVANC หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยบวก :
ข้อเสนอรวมกิจการ 3BB และ JASIF ของ ADVANC จะทำให้สงครามราคาสิ้นสุดลง และเกิดการรวมตลาดในกลุ่มบอร์ดแบรนด์อินเตอร์เน็จ คาดจะมีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายทางพื้นฐานปัจจุบันเพิ่มอีก 10.6 บาท
โอกาสที่จะควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TRUE ยังสูง ทำให้เหลือผู้ประกอบการเพียง 2 ราย ซึ่งมองเป็นบวกต่อกลยุทธ์การฉวยโอกาสของ ADVANC เนื่องจากจะช่วยให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน
Valuation น่าสนใจ เนื่องจากขณะนี้ ADVANC ซื้อขายที่ EV/EBITDA ที่ 7.76 เท่า ในปี 2565 และ 7.2 เท่าในปี 2566 ซึ่งถูกกว่าคู่แข่ง

2. CBG หรือ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยบวก :
ปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 2565-2566 จากจุดแข็งเรื่อง Branding ของเครื่องดื่มชูกำลัง การบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น และรายได้ภาคเกษตรยังทรงตัวสูง บริษัทมีการเปิดตัวเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและสินค้า CBD ใหม่ รวมไปถึงยอดขายในต่างประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น และการขยายตลาดไปยังเวียดนาม
ต้นทุนการผลิตผ่านจุดสุงสุดแล้วและเริ่มปรับลง โดยราคาอลูมิเนียมซึ่งเป็นต้นทุนของบริษัทปรับลงนับจากจุดสูงในรอบ 52 สัปดาห์ลงมาแล้วราว 36%

3. CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยบวก:
การเติบโตระยะกลางและยาวที่ชัดเจน ซึ่ง CPN ประกาศแผนธุรกิจ 5 ปี ขยายพื้นที่เช่า 100% โดยเตรียมลงทุนเงินจำนวน 1.2 แสนล้านบาท เพิ่มจำนวนโครงการเป็น 2 เท่า จาก 89 โครงการ ในไตรมาส 1/2565 เป็น 186 โครงการ ภายในปี 2569
ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่จำกัด และมีปัจจัยหนุนจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เร็วกว่าที่คาด

shutterstock 1932323825 2

4. LH หรือ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยบวก:
เป็นหนึ่งในหุ้นปันผลสูง ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yields) ราว 5.95%
เป็นหุ้นหนึ่งในธีม reopening เนื่องจากห้าง Terminal21 และการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ยอดขายบ้านเดี่ยวของบริษัทมุ่งเน้น High segment เน้นกลุ่มรายได้สูง ทำให้ผลกระทบจากเงินเฟ้อที่สูงในเวลานี้จึงจำกัดกว่า

5. BGRIM หรือ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยบวก:
ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าประเภท SPP ประมาณ 70-75% ของจำนวนสัญญาขายไฟ (PPA) ทั้งหมด เพราะฉะนั้น จึงได้ประโยชน์จากการปรับค่า Ft โดยตรง
กลุ่มโรงไฟฟ้าคือกลุ่ม Defensives ท่ามกลางความกลัวเศรษฐกิจโลกถดถอย รวมถึงได้ประโยชน์จาก Bond yields ที่ปรับลดลง

ก็ถือว่าครบถ้วนทั้ง 5 หุ้น 5 กลุ่ม ทั้ง ADVANC, CBG, CPN, LH และ BGRIM ซึ่งเราสามารถนำลิสต์นี้ไปผสมผสานจัดพอร์ตการลงทุนของตัวเอง สำหรับ DCA ในระยะยาวกันได้เลย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน