สรุป 5 หุ้นโรงพยาบาล สุขภาพการเงินแข็งแรง หลังประกาศผลประกอบการประจำปี 2564 ที่ส่วนใหญ่สามารถทำรายได้และกำไรสุทธิเติบโตดี
เมื่อเศรษฐกิจมีความผันผวน เราจะหันมานึกถึงหุ้นเชิงรับที่ทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจ หรือ Defensive Stock ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล” เพราะหลังประกาศผลประกอบการประจำปี 2564 ที่ส่วนใหญ่สามารถทำรายได้และกำไรสุทธิเติบโตดี ทำให้ราคาหุ้นโรงพยาบาลหลายแห่งยังคงยืนแข็งแกร่งต่อเนื่อง
วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลของ 5 หุ้นโรงพยาบาล ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์สูงสุดในตลาดหุ้นไทย มาฝากกันแบบครบๆ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าแต่ละโรงพยาบาลมีรายได้และกำไรเติบโตอย่างไรบ้าง รวมทั้งความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (31 มีนาคม 2565)
1. หุ้น BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)
โรงพยาบาลในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลเปาโล และ โรงพยาบาล BNH
Market Cap. 397,300 ล้านบาท
ผลประกอบการปี 2564 รายได้รวม 75,791 ล้านบาท (+15.47%) กำไรสุทธิ 7,936 ล้านบาท (+10%)
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในรอบปี (ม.ค. – มี.ค. 2565) ปรับตัวเพิ่มขึ้น +11.61%
2. หุ้น BH หรือ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
โรงพยาบาลในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล
Market Cap. 123,604 ล้านบาท
ผลประกอบการปี 2564 รายได้รวม 12,673 ล้านบาท (+0.84%) กำไรสุทธิ 1,215 ล้านบาท (+0.91%)
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในรอบปี (ม.ค. – มี.ค. 2565) ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.28%
3. หุ้น THG หรือ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
โรงพยาบาลในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลธนบุรี
Market Cap. 73,729 ล้านบาท
ผลประกอบการปี 2564 รายได้รวม 10,974 ล้านบาท (+47.38) กำไรสุทธิ 1,337 ล้านบาท (+2,041%)
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในรอบปี (ม.ค. – มี.ค. 2565) ปรับตัวเพิ่มขึ้น +125.31%
4. หุ้น RAM หรือ บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน)
โรงพยาบาลในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง
Market Cap. 54,900 ล้านบาท
ผลประกอบการปี 2564 รายได้รวม 13,233 ล้านบาท (+61.53%) กำไรสุทธิ 4,192 ล้านบาท (+563.29%)
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในรอบปี (ม.ค. – มี.ค. 2565) ปรับตัวเพิ่มขึ้น +18.83%
5. หุ้น BCH หรือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)
โรงพยาบาลในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์, โรงพยาบาลเวิลดิ์เมดิคอล และโรงพยาบาลการุญเวช
Market Cap. 50,872 ล้านบาท
ผลประกอบการปี 2564 รายได้รวม 21,533 ล้านบาท (+138.69) กำไรสุทธิ 6,846 ล้านบาท (+457.03%)
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในรอบปี (ม.ค. – มี.ค. 2565) ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.62%
วิธีวิเคราะห์หุ้นโรงพยาบาล
ช่วงที่ผ่านมาหุ้นโรงพยาบาลถือว่าสร้าง performance โดดเด่น และมีโอกาสการเติบโตรออยู่ในอนาคตจากเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพ สำหรับใครที่สนใจหุ้นกลุ่มนี้ เราขอสรุป 5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเข้าลงทุน ดังนี้ 1. ความสามารถในการให้บริการ (Capacity) เป็นตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงขนาดของโรงพยาบาล และโอกาสเพิ่มรายได้ในอนาคตว่าเหลืออีกมากน้อยแค่ไหน
2. อัตราการครองเตียง (Utilization Rate) คือ อัตราการใช้บริการของผู้ป่วย ซึ่งคำนวณจากจำนวนเตียงหรือจำนวนห้องให้บริการ เทียบกับจำนวนผู้ป่วยจริง ค่า Utilization Rate ยิ่งสูงยิ่งดี
3. สัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ เนื่องจากโรงพยาบาลแต่ละแห่งจะมีนโยบายโฟกัสกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน การที่เรารู้ว่าเขามีลูกค้าหลักเป็นใคร จะช่วยให้สามารถเลือกลงทุนกับโรงพยาบาลได้เหมาะสมยิ่งขึ้น
4. ค่ารักษาพยาบาลต่อหัว ตัวเลขนี้ยิ่งสูงยิ่งดี แสดงว่าโรงพยาบาลมีกลยุทธ์จับกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพสูง
5. จำนวนโควต้าประกันสังคม ถือเป็นอีกหนึ่งรายได้หลักของโรงพยาบาลเอกชน เพราะเป็นตัวกำหนดจำนวนผู้ป่วยคร่าวๆ ที่จะเข้ามาใช้บริการในแต่ละปี
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องระวังของการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลช่วงนี้ คงเป็นเรื่องมูลค่าของหุ้น เพราะปัจจุบันโรงพยาบาลเป็นกลุ่มที่ตลาดให้ความคาดหวังสูง จาก P/E ที่ค่อนข้างพรีเมียม และด้วยความแพงนี้จึงต้องวิเคราะห์ให้ดีว่าจะซื้อเพื่อหวังการเติบโตต่อเนื่อง หรือจะรอต่อให้ราคาลดลงมาระดับที่จับต้องได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 10 เรื่องต้องรู้!! ‘TRUE-DTAC’ ควบรวมตั้งบริษัทใหม่ ส่งผลอะไรบ้าง?
- สรุป 10 หุ้น ‘ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด’ ไตรมาสแรกปี 2565
- อัพราคาเป้าหมายหุ้น CK ลุ้นงานในมือใกล้แตะ ‘แสนล้าน’