เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 เมื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น CPN ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ ของเครือ “เซ็นทรัล” แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยอมรับว่าอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อกิจการ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น SF
อย่างไรก็ตาม ดีลดังกล่าวทาง CPN ชี้แจงว่าอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล ซึ่งยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจน ขณะที่ฝั่ง SF ก็ระบุเช่นกันว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ หากบริษัทได้รับข้อมูล หรือมีความชัดเจนเพิ่มขึ้น บริษัทจะชี้แจงต่อไป
ทั้งนี้ SF เป็นผู้ประกอบธุรกิจพื้นที่ให้เช่า โดยเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า อาทิ เมกาบางนา, เอสพละนาด รัชดา, เจ อเวนิว ทองหล่อ เป็นต้น ถือว่ามีความคล้ายคลึงกับ CPN อย่างมาก และเป็นคู่แข่งในกลุ่มอุตสาหกรรมห้างสรรพสินค้า
สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรกในปัจจุบันของหุ้น SF ประกอบด้วย
คาด CPN เจรจาซื้อหุ้น SF จาก MAJOR
กระแสข่าวในห้องตลาดทุน รายงานว่า CPN จะเข้าซื้อกิจการ SF โดยเจรจาซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ก่อน จากนั้นจะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้นทั้งหมด โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ว่านั้นก็คือ MAJOR ซึ่งถือหุ้น SF ในสัดส่วน 29.58% นั่นเอง
ขณะเดียวกันทางด้าน MAJOR จึงได้มีการออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ โดยรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่ายังไม่มีข้อตกลงขายหุ้น SF ให้ CPN ตามกระแสข่าว แต่ก็พร้อมเปิดกว้างที่จะเจรจาทางธุรกิจ หากดีลดังกล่าวเป็นประโยชย์กับบริษัทและผู้ถือหุ้น
วิเคราะห์ดีล CPN – SF – MAJOR ใครได้ประโยชน์บ้าง ?
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า หากดีลการซื้อขายดังกล่าวเกิดขึ้นจริงละก็ คาดว่าจะส่งผลดีต่อทุกฝ่าย และในเชิงธุรกิจมองว่าดีลนี้มีโอกาสเกิดขึ้นจริง
สำหรับ CPN จะได้ประโยชน์จากขยายพอร์ตการลงทุนในธุรกิจศูนย์การค้าในกลุ่มคอมมูนิตี้ มอลล์ รวมถึงจะครองห้างแม่เหล็กในโซนพื้นที่บางนา ซึ่งเป็นทำเลที่ยังเป็นจุดอ่อนของ CPN แต่ก็คาดว่า CPN อาจเลือกใช้วิธีทยอยซื้อบางส่วนในสัดส่วนไม่เกิน 25% เนื่องจากฐานะการเงินที่ค่อนข้างตึงตัว โดยปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 2 เท่า และมีหนี้ที่ถึงกำหนดชำระในปีนี้ราว 6,700 ล้านบาท
ด้าน MAJOR ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SF ก็จะได้ประโยชน์จากเงินสดก้อนใหญ่ เพื่อเป็นกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจ หลังจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 โดยที่มูลค่าดีลนี้หาก CPN ซื้อหุ้น SF ทั้งหมด คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 20,000-25,000 ล้านบาท
ถือว่าเป็นประเด็นที่น่าติดตามทีเดียวสำหรับนักลงทุน เพราะหากดีลนี้เกิดขึ้นจริง จะส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแน่นอน ซึ่งปัจจัยสำคัญคงเป็นเรื่องของราคาที่ซื้อมานั้นคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตาหุ้นรับเหมา วิ่งรับปัจจัยบวก! ชิงรถไฟฟ้าสายสีม่วง 7.8 หมื่นล้าน
- หุ้น ‘BEM’ Top Pick รับเปิดเมือง – ตัวเต็งประมูลสายสีส้ม – สายสีม่วงใต้
- ลงทุนยังไงดี ในภาวะ ‘Stagflation’ ที่เศรษฐกิจกลืนไม่เข้าคายไม่ออก