Stock - Finance

จับทางหุ้นเข้า-ออก SET50 และ SET100

กำลังจะเข้าสู่ช่วงกลางปีแล้ว หนึ่งในประเด็นที่นักลงทุนไทยสนใจและวนกลับมาเป็นประจำนั่นก็คือ การเก็งกำไรหุ้นที่จะเข้าออกในดัชนีสำคัญ ที่จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อย่างเช่น SET50 และ SET100 โดยจะมีการประกาศผลในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนและธันวาคมของทุกปี

บทความนี้เราจึงได้รวบรวมหุ้นที่มีโอกาสเข้าออก SET50 และ SET100 จากการประเมินของนักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย (KSecurities) มาฝากกัน โดยอ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 19 เมษายน 2566

คาดการณ์ SET50

สำหรับ SET50 ในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย คาดการณ์ว่าดัชนี SET50 จะถูกปรับการคำนวน เนื่องด้วยการที่ปัจจุบัน หุ้น JMART หรือ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) มูลค่ากิจการตามราคาตลาดตกไปอยู่ลำดับที่ 77 และ หุ้น TIDLOR หรือ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) มูลค่ากิจการตามราคาตลาดตกไปอยู่ลำดับที่ 52 ทำให้ทั้งสองมีโอกาสจะถูกปรับออกจากการคำนวณดัชนี SET50

โดยคาดการณ์ว่าอาจจะถูกแทนที่ด้วย BJC หรือ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และ TLI หรือ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทอยู่ลำดับที่ 29 และ 30 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ยังมีหุ้นบางตัวที่ยังมีความไม่แน่นอน ได้แก่ JMT หรือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ซึ่ง Market cap. อยู่ในลำดับที่ 50 และ WHA หรือ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) Market cap. อยู่ในลำดับที่ 51 และ TIDLOR หรือ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) Market cap. อยู่ในลำดับที่ 52 เพราะตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประเมินด้วยมูลค่าตลาด ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 โดยที่มูลค่าตลาดของ WHA และ TIDLOR น้อยกว่า JMT 3.5% และ 5.3% ตามลำดับ

shutterstock 221259493

คาดการณ์ดัชนี SET100

ขณะที่ดัชนี SET100 คาดว่าชุดหุ้นที่มีโอกาสจะถูกนำออกจากการคำนวณ ได้แก่ BEC, EPG, JAS, ONEE, RBF, SABUY, SINGER, SJWD และ TQM ซึ่งคาดว่าจะถูกแทนที่ด้วย AEONTS, AURA, BJC, ERW, M, MBK, SISB, SNNP และ TLI โดยคำนวณจากมูลค่าของบริษัทตามราคาตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน

ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี SET50 จะมีแรงขายจากกองทุนรวม ​Passive funds แต่ในทางกลับกันหุ้นที่ถูกปรับเข้า SET50 จะถูกเพิ่มน้ำหนักในการลงทุน และมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ เพราะโดยปกติแล้วหุ้นที่ถูกปรับออกจากดัชนี จะมีแรงขายหุ้นตัวนั้นออกจากพอร์ตของกองทุน และส่วนใหญ่หุ้นที่ถูกปรับเข้าก็จะมีแรงซื้อเข้ามาแทน เพื่อจุดประสงค์ให้กองทุนนั้นมีการถือหุ้นลงทุนตามสัดส่วนที่เหมาะสม

shutterstock 676098976 1

ตัวอย่างการปรับพอร์ต การให้น้ำหนักและความสำคัญของแต่ละดัชนี เช่น หุ้น A ถูกปรับเข้าดัชนี SET50 และหุ้น B ถูกปรับเข้าดัชนี SET100 พบว่าหุ้น A ควรจะมีแรงซื้อหุ้นจากการปรับพอร์ตมากกว่าหุ้น B เนื่องจาก SET50 เป็นดัชนีที่ใช้อ้างอิงพอร์ตกองทุนที่นิยมมากที่สุด แม้กระทั่งกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นไทย ก็ยังใช้ดัชนีนี้ในการปรับสัดส่วนลงทุน

สุดท้ายนี้เป็นการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น เพราะมูลค่าบริษัทยังสามารถปรับเปลี่ยนได้เสมอตามความเคลื่อนของราคาหุ้นที่ขึ้นลงกันรายวัน ซึ่งต้องคอยมอนิเตอร์กันไปเรื่อยๆ ว่ามีปัจจัยหนุนหรือปัจจัยกดดันอะไรบ้างในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน