การแตกพาร์หุ้น เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มักใช้สำหรับปรับโครงสร้างเมื่อกิจการมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อขายหุ้นได้ง่ายขึ้น เพราะการแตกพาร์ จะทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ราคาลดลง โดยที่มูลค่ายังเท่าเดิม
ยกตัวอย่าง หุ้น A ราคาพาร์ 10 บาท มีจำนวนหุ้นในตลาด 100 ล้านหุ้น ราคาหุ้น 200 บาท คิดเป็นมูลค่าบริษัท 20,000 ล้านบาท
ต่อมาบริษัทแตกพาร์เหลือ 1 บาท จำนวนหุ้นในตลาดจึงเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านหุ้น ทำให้ราคาหุ้นลดลงเป็น 20 บาท คิดเป็นมูลค่าบริษัท 20,000 ล้านบาทเท่าเดิม
ช่วงหลังมานี้ จึงพบว่าหุ้นขนาดใหญ่นิยมแตกพาร์ เพราะไม่อยากให้ราคาหุ้นสูงเกินไปจนนักลงทุนรายย่อยยากจะเอื้อมถึง จะซื้อแต่ละทีต้องจะได้ไม่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก เหมือนว่าเราหั่นพิซซ่าเป็นชิ้นเล็กลงเพื่อให้ขายได้สะดวกขึ้นนั่นเอง
สถิติหุ้นแตกพาร์ SET100
จากสถิติหุ้นใน SET100 ที่มีการแตกพาร์ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีทั้งที่ราคาหุ้นปรับขึ้นและปรับลง โดยสามารถสรุปออกเป็น 3 ช่วงเวลา คือ ราคาหุ้นหลังแตกพาร์แล้ว 1 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ดังนี้
จากมุมมองคิดว่าหุ้นที่แตกพาร์ ล้วนแต่มีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน อาจจะมีผลในเชิงจิตวิทยาอยู่บ้างในช่วงแรก ๆ แต่สุดท้ายในระยะยาว ราคาหุ้นจะวิ่งเข้าหามูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนั้น ๆ อยู่ดี
DELTA กำลังจะแตกพาร์
บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เป็นหุ้นใหญ่อีกตัวที่มีแผนจะแตกพาร์ หลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.10 บาท คาดว่าหุ้นพาร์ใหม่ จะซื้อขายได้ประมาณเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน 2566 นี้
หุ้น DELTA จะมีปริมาณหุ้นเพิ่มขึ้น 10 เท่า จากเดิมมีจำนวน 1,247,381,614 หุ้น หลังแตกพาร์จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 12,473,816,140 หุ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้นต่อหน่วยลดลง 10 เท่าเช่นกัน จะอยู่ที่ราคาราว 90 บาทในปัจจุบัน โดยไม่มีผลกระทบต่อทุนจดทะเบียน ทุนชําระแล้วและสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด เพียงแต่จะทำให้บริษัทมีจำนวนหุ้นสามัญของบริษัทเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันหุ้น DELTA เป็นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด สูงเกิน 1 ล้านล้านบาท
มองว่าการเปลี่ยนแปลงพาร์ใหม่ จะทำให้หุ้น DELTA มีสภาพคล่องในการซื้อขายเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงแรกของการปรับเปลี่ยนพาร์ใหม่ อาจจะมีแรงการเก็งกำไรเข้ามาจำนวนมาก แต่หลังจากนั้นเมื่อมีการกระจายหุ้นไปยังผู้ถือหุ้นรายย่อยเพิ่มมากขึ้น การผลักดันราคาให้ปรับขึ้นน่าจะยากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ’10 อันดับหุ้น’ ราคาขึ้น-ลงสูงสุด ตั้งแต่ต้นปี 2566
- โพย 5 หุ้นไทย จากสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน
- เจาะอาณาจักรธุรกิจ ‘ปูนซิเมนต์ไทย’ ใหญ่แค่ไหน?
