Politics

‘บิ๊กตู่’ เหน็บแรง! พูด ‘นะจ๊ะ’ ก็มีปัญหา โวยคนกล่าวหาปล่อยโควิด

นายกรัฐมนตรี เหน็บแรง! พูด “นะจ๊ะ” ก็มีปัญหา โวยคนกล่าวหารัฐบาลปล่อยเชื้อ “โควิด” เพื่อหวังผล ลั่นใช้ไม่ได้ ไม่ควรไปให้ค่า วอนไม่อยากให้นำรัฐบาลไปเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ “โควิด-19” ขณะนี้ ว่า มีการแถลงชี้แจงเป็นรายวัน สถิติการติดเชื้อมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง ขึ้นอยู่กับการติดตามผู้ติดเชื้อให้เข้าสู่ระบบได้ แม้สถานการณ์ช่วงนี้ จะมีการแพร่ระบาด แต่ก็รู้ถึงที่มา ซึ่งสิ่งที่ต้องย้ำเตือนอยู่เสมอ คือ การใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หลีกเหลี่ยงสถานที่แออัด ระมัดระวังตัวเองและดูแลครอบครัวด้วย

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้อาจจะมีความลำบากในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เวลาที่จะมากล่าวโทษกัน แต่ต้องร่วมมือกัน และให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน การที่มีคนออกมาพูดว่า รัฐบาลปล่อยเชื้อโควิดออกมา เพื่อหวังผลประโยชน์อย่างอื่น ผมเห็นว่า คนที่คิดแบบนี้ใช้ไม่ได้ และไม่ควรไปให้ค่า รัฐบาลมีแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

นายกรัฐมนตรี

ส่วนกรณีที่ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพราะผู้ว่าฯ ทำงานในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ทั้งดูแลประชาชน และโรงพยาบาลสนาม จึงมีโอกาสติดเชื้อ เมื่อติดเชื้อก็ต้องรักษาต่อไป และยามีเพียงพอ ผมก็มีโอกาสติดเช่นเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าได้ทำการตรวจเลือดแล้ว และการตรวจเลือดให้กับเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ก็เพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ทำเนียบฯ

ส่วนหลังจากนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรี จะเป็นรูปแบบการประชุมผ่านวีดิโอคอนเฟอร์เรนท์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอประเมินตามสถานการณ์ ที่ผ่านมาเคยดำเนินการแล้ว ก็สามารถทำได้ทันที หากมีความจำเป็น แต่ขณะนี้สถานการณ์ยังสามารถควบคุมและติดตามได้ ต้องรอฟังคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง และได้ให้นโยบายการทำงานที่บ้าน และการเรียนออนไลน์ไปแล้ว ทุกอย่างมีบทเรียนก็สามารถนำมาปรับใช้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” ให้สอบสวนคดีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย ยืนยัน ไม่เคยเอื้อประโยชน์ วันนี้มีการลงโทษในชั้นต้น ที่มีการปล่อยปละละเลย ให้เกิดการแพร่ระบาด และจากนี้จะสอบสวนโรค จากผู้ที่ติดเชื้อว่า ไปเล่นการพนันที่บ่อนไหน และมีใครเป็นเจ้าของ เช่นเดียวกับกรณีที่แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าวัคซีนต้านโควิด-19 ที่มีบางโรงพยาบาล เปิดให้ประชาชนจองวัคซีนล่วงหน้าว่า วัคซีนทุกชนิด ไม่ว่าจะนำเข้าจากที่ใด ต้องผ่านการตรวจสอบรับรองจาก อย. ก่อน มิเช่นนั้น จะนำเข้าประเทศไม่ได้ เป็นความห่วงใยที่จะต้องคัดกรอง ตรวจสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน เพราะบางกลุ่มมีปัจจัยเสี่ยง ทั้งคนชราและเด็ก ดังนั้น ต้องฟังคำแนะนำของหมอและสาธารณสุขก่อน

ขอเตือนว่า วันนี้อย่าเพิ่งไปฉีดวัคซีน เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ และเมื่อเกิดปัญหาขึ้น รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ มิเช่นนั้นจะถูกกล่าวหาว่า รัฐบาลไม่ควบคุม ส่วนวัคซีนที่รัฐบาลสั่งจองไป 20 ล้านโดส เป็นการสั่งจองขั้นต้น ซึ่งมีข้อสัญญาว่า ไทยสามารถนำมาวิจัย พัฒนาและผลิตเองได้ ซึ่งก็จะทำให้ฉีดได้ครบทั้งประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่มีแพทย์บางกลุ่ม ออกมาขอรับบริจาคเงิน สำหรับการวิจัยและผลิตวัคซีนในประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ทำเช่นนั้น เพราะมีงบฯ สนับสนุนอยู่แล้ว ซึ่งได้ให้กับสถาบันวัคซีนไปในก้อนแรก 400 ล้านบาท เพื่อแจกจ่ายให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่มีคณะทำงาน และรัฐบาลได้สั่งการให้เพิ่มวงเงินงบฯ ตรงนี้ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาในประเทศไม่ได้มีเพียงเรื่องโควิด-19 เท่านั้น ดังนั้น ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน ให้เวลาในการดำเนินการ ไม่อยากให้เกิดความแตกแยก ไม่ว่าจะในเวทีใดก็ตาม และไม่อยากให้นำรัฐบาลไปเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึง การตั้งฉายารัฐบาลจากสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ว่า ขอขอบคุณ และต่อไปประชาชนก็จะตั้งฉายาสื่อฯ ให้กับสื่อฯ ด้วย ขอให้รอฟังว่าจะเป็นอย่างไร ต้องพร้อมรับฟังทั้ง 2 ทาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ขอบคุณนะจ๊ะ พูดนะจ๊ะก็มีปัญหา”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo