Politics

‘กัณวีร์’ ลั่น ‘ไม่ลดเกียรติ-คว่ำเสียงประชาชน’ โหวตให้ ‘เศรษฐา’

“กัณวีร์” ยึดมั่นจุดยืน ลั่นกลางสภา จะไม่ขอลดเกียรติ และทำลายความต้องการของประชาชน ไปออกเสียงสนับสนุน “เศรษฐา” แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี

วันนี้ (22 ส.ค.) นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวระหว่างการพิจารณา เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีว่า จะไม่ขอลดเกียรติ และทำลายความต้องการของประชาชน ไปออกเสียงสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย

เศรษฐา

“ทุกท่านที่เป็นสมาชิกสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ทราบกันดีว่า การโหวตสวนมติพรรคการเมืองเป็นเรื่องใหญ่เพียงใด แต่ในกรณีนี้ ที่ท่านพยายามทำกันอยู่นี้ คือ การโหวตสวนมติของมหาชนโดยส่วนมาก ย่อมเป็นเรื่องที่ใหญ่หลวง ยิ่งกว่าการโหวตสวนมติของพรรคการเมือง และผมคงไม่สามารถที่จะยอมลดเกียรติของผมเอง ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ให้ความเห็นชอบกับคุณเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีได้”

นายกัณวีร์ บอกด้วยว่า ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวหรือกับนายเศรษฐา หรือข้องใจต่อคุณสมบัติของนายเศรษฐา แต่ยืนยันว่าการโหวตให้นายเศรษฐาโดยที่มี 2 พรรคลุง คือ พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ในรัฐบาลนั้น เป็นการไม่ทำตามความต้องการของประชาชน ที่ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล ไม่ได้ต้องการให้มีรัฐบาลจากกลุ่มเดิม

การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้หากเกิดขึ้น จะเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล ผู้ชนะการเลือกตั้งถูกเสนอชื่อ แต่กลับได้รับเสียงสนับสนุนไม่ถึง 50% ของสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่

ต่อมามีการนัดโหวตอีกครั้งเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม แต่กลับถูกขัดขวางด้วยการอ้างว่าข้อบังคับการประชุมร่วมของรัฐสภาข้อที่ 41 ไม่ให้เสนอญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน ทำให้มีการโหวต ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เห็นว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นเพียงญัตติหนึ่ง จึงเสนอซ้ำไม่ได้ ทำให้การโหวตครั้งที่ 2 ไม่เกิดขึ้น

หลังจากนั้น พรรคก้าวไกลจึงส่งมอบการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย ที่มีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเป็นอันดับ 2 แต่ต่อมาพรรคเพื่อไทยขับพรรคก้าวไกลออกจากแนวร่วม โดยอ้างว่ าเป็นอุปสรรคต่อการรวมเสียงจากพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม

ทำให้ 8 พรรคที่ร่วมเซ็นบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ต้องแยกทางกัน พรรคเพื่อไทยจึงหันไปจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ที่มีพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย รวมอยู่ด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo