“วิษณุ” เปิดขั้นตอน “ทักษิณ” ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ชี้ทำได้ทันทีภายในวันแรกหลังรับโทษ เตือนต้องคิดให้รอบคอบ หากไม่โปรดเกล้าฯ ต้องรออีก 2 ปี
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขั้นตอนจะเป็นอย่างไรว่า ผมยังตอบไม่ถูก ต้องถามกระทรวงยุติธรรม เพราะเขาต้องเตรียมดำเนินการในเรื่องนี้ แต่ถ้าผมทราบอะไรแล้วจะแจ้งให้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประสานอะไรมายังกรมราชทัณฑ์แล้วหรือยัง นายวิษณุ กล่าวว่า ผมไม่ทราบ แต่เห็นมีออกทีวีกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่านายทักษิณ จะเดินทางกลับวันที่ 10 สิงหาคมนี้ แล้วก่อนหน้านั้นนายทักษิณก็โพสต์ทวิตเตอร์บอกเอง รวมถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ก็พูดเอง ซึ่งเมื่อทางกรมราชทัณฑ์รับทราบ เขาก็ต้องเตรียมการ แต่เร็วไปที่จะบอกว่าต้องเตรียมอย่างไรบ้าง แต่ความจริงกรมราชทัณฑ์เตรียมการมาตั้งแต่มีข่าวว่านายทักษิณจะกลับมาในวันเกิดแล้ว
เมื่อถามว่า จะได้เห็นภาพนายทักษิณปรากฏตัวต่อสื่อหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ผมขอเวลาตั้งเนื้อตั้งตัวนิดหนึ่ง
เมื่อถามว่าเมื่อนายทักษิณเดินทางมาแล้ว ก็มีโอกาสที่จะขอพระราชทานอภัยโทษใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องขังทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่เงื่อนไขคือต้องอยู่ระหว่างการรับโทษ เมื่อรับโทษแล้ว สามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ตั้งแต่วันแรก เพียงแต่ต้องรับโทษเข้าห้องขังก่อน โดยตามขั้นตอนแล้ว เมื่อนายทักษิณเดินทางมาถึง กรมราชทัณฑ์จะมารับตัวและนำไปรับหมายศาลที่ศาล แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปฟังคำพิพากษาที่ศาล เพราะศาลตัดสินไปแล้ว จบไปแล้ว
ส่วนคดีที่เหลือก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งคดีที่นายทักษิณต้องคำพิพากษาที่ถึงที่สุดไปแล้ว 3 คดี คดีหนึ่งจำคุก 2 ปี อีกคดีหนึ่งจำคุก 3 ปี ส่วนอีกคดีจำคุก 5 ปี รวมทั้งหมดเป็น 10 ปี แต่จะเหลืออีกกี่คดีตนไม่ทราบ และไม่ทราบว่ามีคดีไหนที่หมดอายุความไปแล้วบ้าง เพราะทราบว่ามีทั้งคดีที่หมดอายุความไปแล้ว และมีที่ยังไม่ได้ฟ้องอีก แต่เป็นเรื่องเล็กน้อย อย่างกรณีหลบหนีออกนอกประเทศ ก็ต้องถูกฟ้อง ซึ่งเป็นอีกข้อหาหนึ่ง แต่ยังไม่ได้มีการฟ้อง ซึ่งเขาอาจจะฟ้องหรือไม่ก็ได้หลังจากที่ได้ตัวกลับมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษ นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อนายทักษิณเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ถ้าพร้อม ก็สามารถดำเนินการขอได้เลย ซึ่งต้องมีการเขียนฎีกา อธิบายกันยืดยาวพอสมควร เพราะถ้ายื่นไปแล้วไม่โปรดเกล้าฯ ลงมา ก็จะไม่สามารถยื่นได้อีกภายในสองปี เพราะฉะนั้นต้องคิดให้ดี
เมื่อถามว่า ครอบครัวมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของนายทักษิณ นายวิษณุ กล่าวว่า ผมได้กำชับเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ว่าให้ดูแล 3 เรื่องเป็นพิเศษ ได้แก่
- ความปลอดภัย ซึ่งตรงนี้อาจทำให้นายทักษิณได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากนักโทษคนอื่น เพราะนักโทษคนอื่นไม่มีปัจจัยเสี่ยงตรงนี้
- ให้มีความสะดวกตามสมควร ไม่ถึงขนาดสะดวกมากจนเป็นอภิสิทธิ์อะไร แต่ต้องสะดวก เพราะจะมีคนเข้าเยี่ยม โดยคาดหมายว่าจะมีองค์การระหว่างประเทศ หรือองค์กรสิทธิมนุษยชน มีแฟนคลับและมวลชนเยอะ ดังนั้นก็ให้มีความสะดวกพอสมควร
- ให้มีความสบายพอสมควร ไม่ถึงขนาดให้สบายมากนัก แต่สบายในที่นี้เพราะอายุเกิน 70 ปี และป่วย ก็ต้องมีอะไรที่ไม่เหมือนคนอายุ 25-30 ปี
เมื่อถามอีกว่า การที่นายทักษิณอายุ 74 ปี จะมีสิทธิพิเศษอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มี 1.พวกอายุ 70 ปีขึ้นไป 2.พวกที่ป่วย ก็จะมีสิทธิพิเศษอะไรบางอย่าง ซึ่งตรงนี้นักโทษทุกคนจะเสมอกันหมด
เมื่อถามว่า กรณีหากนายทักษิณมีอาการป่วย ก็สามารถไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าป่วย นักโทษอายุ 20 ปีขึ้นไปก็สามารถอยู่ได้ ไม่จำเป็นต้องอายุถึง 74 ปี แต่รายละเอียดต่าง ๆ ต้องอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ว่าจะพิจารณาอย่างไร เพราะเขาทำกับนักโทษมาเยอะแล้ว ไม่ได้ยุ่งยากอะไร
เมื่อถามย้ำว่า กรณีของนายทักษิณ จะมีอะไรที่แตกต่างจากนักโทษทั่วไปหรือไม่ เข่น มีห้องพิเศษ นายวิษณุ กล่าวว่า โอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น ขอให้ทางฝ่ายราชทัณฑ์เขาพิจารณา และจะรายงานมาที่ตนอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะกักตัวอยู่บ้านนั้น คงทำไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องอยู่ในเรือนจำ
เมื่อถามว่า การเข้าไปอยู่ในเรือนจำ แม้แค่หนึ่งวันก็ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วจะอยู่ทำไมหนึ่งวัน ไม่งั้นวันที่สองจะไปอยู่ที่ไหน ไม่มี ก็ต้องอยู่ในห้องขังอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ได้มีกำหนดว่าต้องอยู่ห้องขังกี่วันถึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ภายใน 24 ชั่วโมงก็ทำได้แล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ ผมพูดแทนไม่ได้
เมื่อถามอีกว่า นายทักษิณต้องอยู่ในห้องขังกี่วัน ถึงจะให้ประชาชนหรือแฟนคลับไปเยี่ยมได้ นายวิษณุ กล่าวว่า ปกติก็เยี่ยมได้อยู่แล้ว แต่จะแบ่งว่าเป็นแฟนคลับหรือครอบครัว ผมไม่ทราบ ขอเวลาหาข้อมูล เพราะผมเกิดมาก็ไม่เคยถูกขัง อย่างไรก็ตาม สำหรับคนในครอบครัวสามารถเยี่ยมได้ตั้งแต่ต้น
เมื่อถามว่า การเดินทางไปรับนายทักษิณที่สนามบิน ประชาชนสามารถเดินทางไปรับได้หมดใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ไปรับได้หมด ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว สื่อมวลชน หรือมวลชน ก็ไปรับได้หมด แต่จะได้ขนาดไหนตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่า จะได้เห็นภาพนายทักษิณ กราบแผ่นดินอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรายังไม่รู้เลยว่านายทักษิณจะมาด้วยสายการบินไทยอะไร ลงที่ไหน แม้จะรู้ว่าเป็นที่สนามบินดอนเมือง แต่ก็มีสนามบินหลายแห่ง ทั้ง บน.6 อาคารผู้โดยสารพาณิชย์ และลาดจอดเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แต่อย่างน้อยเราก็ตัดสนามบินสุวรรณภูมิออกไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางกลับมาของนายทักษิณครั้งนี้ ทำให้การเมืองประเทศไทยดูคึกคักขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ รู้อย่างเดียวว่าต้องปรับการเตรียมตัว เพราะกำหนดการเปลี่ยนแปลง ความจริงเป็นห่วงว่าจะมีปัญหาหากกลับวันที่ 31 กรกฎาคม เพราะเป็นวันหยุดราชการ ซึ่งจะทำให้ยุ่งยากในการปฏิบัติภารกิจหลายอย่าง โดยเฉพาะการนำตัวนายทักษิณไปศาล เพราะสำนักงานศาลปิด
เมื่อถามว่า หากนายทักษิณกลับมาช่วงที่มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะส่งผลอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามนายกฯ คนใหม่
เมื่อถามอีกว่า ที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ มีห้องพิเศษสำหรับนักโทษคนเดียวหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มี อย่างกรณีของนายราเกซ สักเสนา หรือนายวิโรจน์ นวลแข ซึ่งมีหลายคน
เมื่อถามว่า ห้องพิเศษมีแอร์ด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ยืนยัน เพราะปกติห้องพิเศษก็มีแอร์ทั้งนั้น แล้วคุณจะไปเดือดร้อนอะไรกับแอร์ถ้าคุณไม่เปิด นักโทษทั่วไปสามารถอยู่ห้องแอร์ได้ แต่ไม่ใช่นอนในห้องแอร์ แต่เป็นการทำงานในห้องแอร์ ลองไปถามคนมีชื่อเสียง ก็อยู่ในห้องแอร์ทั้งนั้น แต่เป็นการอยู่ในห้องเพื่อทํางาน
เมื่อถามย้ำว่า ในห้องนอนมีแอร์หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ และไม่รู้ด้วยว่านายทักษิณจะนอนห้องไหน ห้องเบอร์อะไร เมื่อถามอีกว่า นักโทษจะสามารถนำแอร์ไปติดในห้องนอนเองได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เอาไว้ค่อยดูก่อน ผมและกรมราชทัณฑ์ก็ยังไม่รู้ว่านายทักษิณมีโรคอะไร
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อุ๊งอิ๊ง’ เชื่อ ‘ทักษิณ’ กลับไทย 10 ส.ค. ไม่เลื่อนแล้ว พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม!
- ‘บิ๊กตู่’ รอดู ‘ทักษิณ’ กลับไทยมั้ย? ชี้หากกลับต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย!
- ‘ทักษิณ’ กลับไทย สะท้อน 4 ความหมายการเมืองไทย
