“บิ๊กโจ๊ก” คุมเข้มสำนวน 40 ลัง ส่งป.ป.ช.เอาผิด 107 ตม. ช่วยแก๊งจีนเทา
ความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนเข้าเมืองจำนวน 107 นาย ซึ่งมีพฤติการณ์ในการให้การช่วยเหลือในการอนุญาตขออยู่ต่อในราชอาณาจักรให้กับกลุ่มนายทุนจีนสีเทาและชาวต่างชาติ โดยใช้วิธีการสร้างหลักฐานเกี่ยวกับการเรียนภาษา หรือการเป็นสมาชิกของมูลนิธิและสมาคมต่างๆ นั้น
ล่าสุดวันนี้ (9 มี.ค.2566) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และทีมพนักงานสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 4 นำสำนวนคดีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง 116 นายในหลายพื้นที่ เช่น จ. ขอนแก่น จ.ชัยภูมิ จ. แพร่ จ. น่าน จ.เชียงใหม่ ที่กระทำผิดต่อหน้าที่ทุจริตออกวีซ่าให้ทุนจีนสีเทาส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้วเพื่อชี้มูลความผิดในคดีดังกล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการปราบปรามนายทุนจีนสีเทา ที่เข้ามาในประเทศไทยเพื่อกระทำผิดกฎหมาย โดยใช้คนไทยเป็นนอมินีบังหน้า เริ่มตั้งแต่การเข้าจับกุมผับจินหลิง ขยายผล สอบ ผู้ต้องหา พยานบางส่วนให้ข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ให้ทุนจีนสีเทา รวมทั้งยังสืบสวนถึงที่มาของการอนุญาตขออยู่ต่อในราชอาณาจักร ซึ่งมีการตรวจสอบพบพิรุธในการดำเนินการจำนวนมาก จึงมีการขยายผล ดำเนินคดี กับ เจ้าหน้าที่ ที่เอื้อประโยชน์ ให้นายทุนจีนสีเทาในการให้การช่วยเหลือในการอนุญาตขออยู่ต่อในราชอาณาจักรโดยใช้วิธีการสร้างหลักฐานเกี่ยวกับการเรียนภาษา หรือการเป็นสมาชิกของมูลนิธิ โรงเรียนและสมาคมต่างๆ
โดยในสำนวนได้มีการสอบปากคำพยานไปมากถึง 446 ปาก มีเอกสารพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีมากถึง 139,000 แผ่นดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรวม 116 นาย แบ่งออกเป็นการข้อหา ตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำนวน 107 นาย ซึ่งในจำนวนนี้มีนายพลอยู่ด้วย 3 นายโดยมีพฤติกรรมคดี กระทำต่างกรรมต่างวาระ รวม 8,000 กรรมด้วยกัน
ส่วนอีก 9 นายเป็นความผิด มาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือจะยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ ซึ่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบความเชื่อมโยงเอาผิดได้ 9 นาย ในขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้ว 446 ปากแต่ในส่วนผู้ต้องหา ที่ไม่ได้มีการสอบปากคำ เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนที่สามารถทำได้ หากเห็นว่าหลักฐานและพยานมีน้ำหนักเพียงพอที่จะดำเนินคดีในความผิด ไปผู้ถูกกล่าวหาสามารถชี้แจงในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช.ได้โดยพยานหลักฐานต่างๆ ในคดีทั้งหมดที่จะส่งมอบ ให้ ป.ป.ช. ในวันนี้ มีมากกว่า 40 ลัง สำนวนคดีมากกมากกว่า 1 แสน 3 หมื่นแผ่น ยืนยันเอาผิดได้เพราะการดำเนินคดีกับผู้รักษากฎหมาย ต้องมีพยานหลักฐานแน่นหนา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุถึงนายพลที่ถูกดำเนินคดีและเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนในร้อยตำรวจด้วยว่า “แม้จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น แต่หากทำผิดก็ต้องดำเนินคดี รวมทั้งนายตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้วก็จะมีขั้นตอนในการดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน“
ยืนยัน ไม่หนักใจ กรณีที่มีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ตัวเองปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวน ถือว่า เป็นสิทธิ์ที่ผู้ร้องเรียนสามารถกระทำการได้ เนื่องจากเป็นการตรวจสอบในทุกมิติของกระบวนการทำงาน ยินดีที่จะให้มีการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสกับทุกฝ่าย และถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องปฏิรูปการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพราะเป็นด่านหน้าของประเทศ ที่มีหน้าที่คัดกรองผู้คนเข้าสู่ประเทศ หากทำงานดีมีประสิทธิภาพก็จะสามารถ ลดปัญหาอาชญากรรม ลงได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มหาเศรษฐีนักลงทุน ‘มาร์ก โมเบียส’ เตือน ‘ระวังให้มาก’ เข้าลงทุนจีน หลังเจ้าตัวถอนเงินออกไม่ได้
- เตรียมออกหมายจับ’เจ้าของมูลนิธิฯ-นายหน้า’ เอี่ยวออกวีซ่าทุนจีนสีเทา
- ‘บิ๊กโจ๊ก’ ลุยฟัน 107 ตม. ต่อวีซ่าให้กับกลุ่มทุนจีนสีเทา