COVID-19

สธ.จ่อคลอด ‘ยูเซปพลัส’ รองรับคนติดโควิด-มีโรคร่วม ย้ำโควิดอาการฉุกเฉินรักษาได้ทุกที่

สธ. เตรียมจัดทำ “ยูเซปพลัส” รองรับคนติดโควิดและมีโรคร่วม กลุ่มอาการฉุกเฉินวิกฤต ผู้ป่วยโควิด หากเข้าข่ายฉุกเฉิน ยังรักษาผ่านยูเซปได้

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า โรคโควิด-19 มีการพิจารณาแล้วจะไม่ได้เป็นโรคฉุกเฉินอีกต่อไป ส่วนที่ผ่านมาต้องกำหนดเป็นโรคฉุกเฉิน เนื่องจากเป็นโรคใหม่และกังวลจะไม่มีที่รักษาพยาบาลและทำให้ระบบสาธารณสุขล้มเหลว

ยูเซปพลัส

แต่ปัจจุบันคนติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการก็เหมือนโรคหวัดทั่วไป ที่มีคนป่วยหลายแสนรายต่อวันก็ไม่มีปัญหา เช่นเดียวกัน ตอนนี้คนติดโควิดที่จำเป็นต้องนอนรพ.มีไม่มาก ขณะนี้อยู่ที่ราว 700 คน จึงไม่น่าจะเป็นโรคฉุกเฉินอีกต่อไป

ในส่วนของเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต รักษาทุกที่หรือ UCEP หากคนไข้โควิด-19 ถ้ามีอาการรุนแรงเข้าเกณฑ์ เช่น มีโรคร่วมที่เป็นอันตรายรุนแรง อาทิ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ติดโควิด-19 แม้ว่าโควิด-19 ไม่รุนแรงมาก แต่โรคไตรุนแรง ก็จะพิจารณาให้เข้าข่ายเป็น UCEP โควิด-19 เพื่อให้ได้รับการดูแล

ปั้น ยูเซปพลัส รองรับคนติดโควิด-มีโรคร่วม

ดังนั้น จึงมีแนวคิดเรื่องการจัดทำ ยูเซป พลัส เพื่อรองรับคนติดโควิด-19 และมีโรคร่วมเดิม ซึ่งในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะหารือร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เพื่อพิจารณาเกณฑ์ที่เข้าข่ายรักษาแบบ UCEP พลัส

นพ.เกียรติภูมิ
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต

ทั้งนี้ ในหลักการคือ คนที่ติดโควิด-19 และมีโรคร่วมเดิม จากนี้จะกำหนดนิยามของผู้ที่เข้าข่ายจะเป็นผู้ที่โรคร่วมเดิมอะไรบ้าง ซึ่งจะอยู่ที่ข้อสรุปของการหารือ

สำหรับคนทั่วไปที่ติดโควิด-19 จากเดิมที่จะเข้าไปรับการรักษาที่รพ.เอกชนใดก็ได้ ก็ปรับเป็นการไปรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิ เช่น มีสิทธิ์รักษาที่รพ.ราชวิถี ก็ไปใช้สิทธิรพ.ราชวิถี ถ้าอาการไม่มากหรือไม่มีอาการ รพ.ก็จะพิจารณาให้ดูแลตนเองที่บ้านหรือ HI

แต่หากไม่สะดวก และไม่สามารถที่จะอยู่ที่บ่านได้ ก็จะมีระบบดูแลที่โรงแรม (Hotel Isolation) โดยที่จะมีบุคลากรติดตามอาการทางระบบออนไลน์ได้ แต่ไม่ใช่ฮอสพิเทล

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีพบสัดส่วนการติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 มากขึ้นว่า ระบบการเฝ้าระวังนั้นเป็นการเฝ้าระวังทุกสายพันธุ์ ป้องกันตัวเองสูงสุดก็เป็นการป้องกันความเสี่ยงจากโรคโควิดได้อย่างมาก

อนุทิน1 1

ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เราก็พยายามควบคุมทุกอย่าง ส่วนใหญ่อยู่ในกทม. และเป็นการติดเชื้อในครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังถือว่าโอไมครอนไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงเหมือนที่ผ่านมา

ดังนั้นขอให้ประชาชนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากที่สุด ก็จะช่วยประคับประคองได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ วันนี้ผู้มีอาการหนักและเสียชีวิต ยังอยู่ในสถานการณ์ควบคุมได้เช่นกัน

ในส่วนของยูเซป นั้นไม่ได้ปรับโควิดออกจาก UCEP ทั้งหมด แต่มีการปรับปรุงวิธีการให้บริการ ตามอาการของผู้ที่ป่วยโควิด เพราะยังมีโรคอื่น ๆ อีกมากที่รอใช้บริการทางการแพทย์ รอการรักษาในรพ.

ตอนนี้เราอยู่กับโรคมา 2 ปีกว่า ๆ แล้ว พยายามจัดระบบบริการเพื่อรองรับได้ ถ้าไปเน้นว่าโควิดฉุกเฉิน ต้องแซงคิว มีอภิสิทธิ์เหนือโรคอื่นๆ ทุกอย่างจะทำให้ระบบสาธารณสุขรวน ดังนั้น ต้องปรับระบบการให้บริการให้สอดคล้องกับสถานการณ์โรคในประเทศไทย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo