สรุปดราม่า #แบมไพลิน จากนักร้องสู่นางงาม สละมงเพราะท้อง สู่มหากาพย์แย่งพ่อของลูก?

3 กุมภาพันธ์ 2567

สรุปดราม่า #แบมไพลิน จากนักร้องสู่นางงาม สละมงเพราะท้อง สู่มหากาพย์แย่งพ่อของลูก เจอแฉฝ่ายชายภรรยา-ลูก อยู่แล้ว

เรียกว่าเป็นกระแสดราม่าร้อน ๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และส่งผลให้แฮชแท็ก #แบมไพลิน ติดเทรนด์ใน X ต่อเนื่องมา 3 วัน นับตั้งแต่ข่าวการประกาศสละตำแหน่งของ แบม ไพลิน วงษา มิสแกรนด์ระนอง 2024 ที่ได้ตัดสินใจคืนมงกุฎ เนื่องจากกำลังตั้งครรภ์กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจนอกวงการ ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ได้ จึงแต่งตั้ง ก๋อมแก๋ม ณัฐวิกาญจณ์ เป็นมิสแกรนด์ระนอง 2024 คนใหม่

ทั้งนี้ แบม ไพลิน เป็นอดีตนักร้องลูกทุ่งอินดี้อีสาน เกิดและเติบโตที่จังหวัดขอนแก่น และย้ายมาอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ มีโอกาสไปแข่งร้องเพลงทางรายการโทรทัศน์ และทีมงานรายการดังกล่าว ได้มาชักชวนว่า เบิ้ล ปทุมราช อยากจะแต่งเพลงให้ กระทั่งมีเพลงแจ้งเกิด บ่ต้องการเศษใจ (เหลือแต่หอยกับรอยยิ้ม) ที่ปัจจุบันมียอดวิวทะลุ 300 ล้านวิว จากนั้นผันตัวเองมาลงประกวดนางงาม จนคว้าตำแหน่งมิสแกรนด์ระนอง 2024 มาครอง

แต่ปรากฎว่าต่อมา เพจดัง อีกี้ขยี้ข่าว ตามล่าอีตุ่นน้อย ออกมาโพสต์แฉในทำนองว่า พ่อของลูกในท้อง แบม ไพลิน แท้จริงมีภรรยาอยู่แล้ว แถมมีลูกเล็กด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 2 ขวบ 3 เดือน คนเล็กอายุ 7 เดือน ซึ่งทางภรรยาได้เตรียมตัวพาลูกไปอยู่ต่างประเทศ เพราะเสียใจ เลี้ยงลูกคนเดียว นอนร้องไห้ทุกคืน ลูก ๆ ได้เจอพ่อล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางภรรยาขอเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์ และคงไม่ได้ฟ้องชู้ เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ต่อจากนี้ขอแค่สิทธิ์เลี้ยงดูบุตรแต่เพียงผู้เดียว

หลังจากนั้น แบม พร้อมด้วย แม็กซ์ ซึ่งเป็นพ่อของลูกในท้อง ก็ได้ออกมาไลฟ์ชี้แจง โดยฝ่ายชายบอกว่า “กับแม่ของลูก เราไม่ได้มีการแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรส เราทั้ง 2 คนทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีที่สุด สถานะก่อนมาเจอแบม ไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน แบมไม่ได้เข้ามาเป็นมือที่สามอย่างแน่นอน กับแม่ของลูก เราไปกันไม่ได้มานานมาเป็นปี ๆ แล้ว”

ขณะที่ แบม ก็บอกว่า “ห้ามพูดคำว่าแย่งนะคะ แบมไม่ได้แย่งใครเลย ถ้าแบมรู้ว่าเขามีเมีย แล้วเข้ามาเป็นเมียน้อย แบมคงไม่ทำ อย่างที่ผู้ชายบอกความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แบมรู้ตั้งแต่แรกเหมือนเขามีลูก เขายังทำหน้าที่พ่อที่ดีที่สุด เราเข้าใจ แบมเป็นคนรักเด็กมาก ๆ ไม่ว่าวันนี้เขาจะมีลูก 10 คน แบมได้เลือกแล้ว แบมไม่ได้มองว่าวันนี้ที่แบมมีมันคือความผิดพลาด แต่เป็นสิ่งที่แบมเลือก ไม่ใช่แบมหลับหูหลับตา เราไม่ได้เป็นแบบนั้น ทุกคนมีอดีต แบมก็มีทั้งดีไม่ดี แม็กซ์ก็ต้องมาปกป้องสิทธิ์แม็กซ์เอง”

ขณะที่โลกโซเชียลได้เปิดวาร์ปแฟนหนุ่มของ แบม คือ แม็กซ์ ณพวิทย์ สัตย์เพริศพราย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ทายาทรุ่นที่ 2 ผู้บริหารรุ่นใหม่ของบริษัท Happy MPM ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม โดย แม็กซ์ ณพวิทย์ มีฝาแฝดคือ มิกซ์ ณพวัฒน์ สัตย์เพริศพราย

และเมื่อเข้าไปส่องอินสตาแกรมของทั้ง แม็กซ์ และ แบม พบว่า ทั้งคู่คบหาดูใจกันมาสักพัก แม้ไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีรูปที่สื่อถึงกันให้ได้เห็นอยู่บ่อยครั้ง อย่างล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเกิดสาวแบม หนุ่มแม็กซ์ ก็ได้ลงอวยพรวันเกิดด้วยนั่นเอง

ซึ่งหลังจากที่ แบม และ แม็กซ์ ออกมาไลฟ์ ฟาก ภรรยาของฝ่ายชาย ก็ได้ออกมาโพสต์ร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมเปิดหลักฐานแชทข้อความกับฝ่ายในระหว่างเดือน ก.ย. – พ.ย. ที่ผ่านมา หลังฝ่ายชายบอกว่าไปกันไม่ได้มาเป็นปี ๆ แล้ว ก่อนจะบอกอีกว่า ดูวันที่ด้วย ระหว่างที่พวกคุณคบกันยังมานอนกับเราอยู่เลย

“เปิดมา เปิดกลับ ก่อนไลฟ์นี่ถามจริงมั่นใจมาก พวกคุณกล้ามากกล้าเนอะ ออกมาโชว์หน้า !! เราพยายามประคองให้เป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก พอเธอมีคนใหม่ เธอถึงบอกไปต่อไม่ได้… ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย อยู่บ้านหลังเดียวกัน ไปไหนทำไรด้วยกันตลอด เวลาอยู่กับลูกเธอดูมีความสุขนะ… เธอเคยคุยกับเราเหรอ? เธอเคยนัดเครียกับเราเหรอ? เธอหายไปเลยตอนมีคนใหม่ เราเรียกเธอมาคุยเธอไม่มา เธอทิ้งทุกอย่างแม้กะทั่งลูกเธอเอง การรับผิดชอบอะไร อธิบายให้ชัดเจน? ขอความจริงคับ เราอยู่บ้านเธอ เลี้ยงลูกมาตลอด เราเป็นทุกข์ทั้งน้ำตาทุกวัน ลูกป่วยเราดูแลคนเดียว เธอเคยสนใจเหรอ

ตั้งแต่มีคนใหม่เธอออกไปอยู่คอนโดด้วยกันมาตลอด เธอได้กันก็อยู่ด้วยกัน เธอบีบเราทุกทาง ทำให้เราอยู่บ้านเธอไม่ได้ เธอรู้ตัวเองดี เธออัพรูปโชว์ ทั้ง ๆ ที่เรายังอยู่บ้าน เธอพยายามทำลายความรู้สึกเราทุกวัน ๆ จนเราอยู่ไม่ได้ เธอไล่เราออกจากบ้านบอกให้ทิ้งลูกไว้ 1 คน คือ Magnus อีกคนเธอบอกจะให้เราเอาไป หรือจะทิ้งไว้ก็ได้… (ไม่มีแม่ที่ไหนทิ้งลูกนะ แล้วแยกพี่แยกน้อง) เธอใช้อะไรคิด เธอเป็นพ่อคนอยู่หรือเปล่า จนเราต้องหอบลูกออกมาอยู่ข้างนอก
เรานอนไม่หลับร้องไห้ทุกคืนทุกวัน เราทำไรผิด? เธอตอบว่า ดีทุกอย่าง แต่ไปต่อไม่ได้ ก็เพราะเธอมีคนใหม่

ทุกครั้งที่มีเรื่องผญ. เราอดทนนะ เพาะเรามีลูก เราประคองจนสุดทางจริง ๆ ตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา ชีวิตเรา 2 คน จะวนเวียนแบบนี้ตลอด ไป ๆ มา ๆ เธอตามเรากลับทุกครั้ง เวลาที่เธอไม่เหลือใคร ที่เรายังอยู่เพราะรักเธอไง แต่เธอไม่เห็นค่าในตัวเรา เธอบอกเราเป็นเซฟโซน แต่เธอก็ทำกับเราไม่มีตัวตน ตอนคบกันแรกๆเธอดีมาก ๆ เธอดีจนรู้สึกว่า เธอเป็น ผช.อบอุ่นดูแลเทคแคร์ดี แต่พอนานไปอะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเดิม เพราะเธอมี ผญ. เข้าหาตลอด..  ตอนนี้ขอพูดครั้งสุดท้ายนะ เรามองหน้าลูก แล้วตัดสินใจดีแล้วว่า เราไปต่อไม่ไหว เราขอหยุดตัวเอง เราให้อภัยมาตลอด จนตอนนี้เราขอจบตัวเราเอง เธอจะไปมีครอบครัวใหม่ ไปแต่งงาน ไปมีใครอีกกี่คนแล้วแต่เธอ .. และอย่ามายุ่งกับเราและลูก ๆ อีก !!! #นี่ยกตัวอย่างแค่นี้ เราไม่อยากแฉเยอะ เราไม่อยากทำแบบนี้นะ แต่พวกคุณทำกับเราก่อน พวกคุณเปิดก่อนอะไรคือบอกเลิกกันนานแล้ว แหกตาดูวันที่ด้วยนะ ระหว่างที่พวกคุณคบกันยังมานอนกับเราอยู่เลย ทำร้ายเราได้ อย่าทำกับลูกในสายเลือดแบบนี้ !! แล้วจะรู้ว่าเวรกรรมมีจริงทำครอบครัวคนอื่นพัง !!”

ทางด้าน บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล หัวเรือใหญ่ขององค์กรมิสแกรนด์ฯ ได้ออกแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “ส่วนตัวคำว่าเมียหลวงกับเมียน้อย มันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ผมคิดว่าทุกวันนี้มันเป็นเรื่องสาธารณะไปแล้ว เพราะมันอยู่บนแพลตฟอร์มสาธารณะ อยากให้กำลังใจคุณซีกับลูกในฐานะอะไรก็ได้ ในฐานะคนดูหรือคนเสพข่าว เพราะว่า 5 ปีอยู่ด้วยกันมันไม่ใช่เวลาน้อย ๆ ผมอยากให้กำลังใจ ไม่ว่าเรื่องที่จะเกิดมันอาจจะไม่ถูกใจกันก็แล้วแต่ แต่ผมต้องให้กำลังใจกับคนที่สูญเสียเวลาไป 5 ปี และต้องดูแลเด็กน้อยอีก 2 คน ซึ่งคนเล็กก็อายุ 7 เดือน”

“และผมก็เข้าใจแบม แต่คงไม่ให้กำลังใจ ซึ่งมันก็หลังชนฝา ต่อไปก็ไม่ไหวจะถอยกลับไปมันก็ไม่ได้ เป็นสิ่งที่คุณต้องยอมรับกับสถานการณ์กับวิกฤติครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ ถ้าผมแนะนำในที่ผมคุยกับน้องอยู่ แนะนำให้น้องเงียบ ปล่อยเวลาให้มันค่อนข้างจัดระบบ และเดี๋ยวมันจะเจอทางที่น้อยลงและจะเลือกง่ายขึ้น ส่วนตอนนี้ทางมันกระจัดกระจายตั้งแต่เมื่อคืน และเสียงวิพากษ์วิจารณ์เยอะ และน้องก็ต้องดูแลตัวเองในช่วงนี้ สุขภาพจิตก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งก็เข้าใจ เพราะฉะนั้นอยากให้น้องดูแลตัวเอง ใจเขาใจเรา ต้องเงียบไปก่อนดีกว่าช่วงนี้ แต่ส่วนผู้ชายผมไม่มีความเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากว่ารับผิดชอบทุกอย่างและทุกคน”

“ยอมรับว่าเสียดายโอกาสแทน คนที่เดินมาถึงจุดที่กำลังจะมีโอกาสมันยากมาก น้อง ๆ ที่มายืนอยู่ 77 คน แสงมันก็ยังลงน้อยมาก แต่ แบม ไพลิน เป็น 1 ใน 5 ที่แสงเยอะมาก และกำลังจะมีความนิยมค่อนข้างสูง ดูจากด้อมและการขายของ ทุกอย่างพร้อมหมด เป็นจังหวะที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตได้เยอะมาก คุยกับอิงฟ้า ยังบอกเสียดายมาก ๆ เพราะเห็นว่าน้องเขามีทรง แล้วไม่ใช่นางงามจ๋า เขาเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ผสมนางงาม ซึ่งมันเหมาะกับแกรนด์ ชีวิตอาจจะพลิกไปเลย อาจจะครึ่งหนึ่งของอิงฟ้าก็เยอะแล้ว หรือได้เท่าชาล็อตก็ได้ แต่มันมามีเหตุผลนี้ ถามว่าเสียดายไหม ก็เสียดายโอกาสที่น้องจะได้ สำหรับผมไม่เป็นไร ไม่มีเขามันก็มีคนอื่น แต่สำหรับน้องคือเสียดาย ครั้งหนึ่งในชีวิต อายุ 24 เอง แต่สุดท้ายก็ต้องหยุดฝันตัวเองทั้งหมด มันเลยเป็นเรื่องเสียโอกาส”