Business

ชาวไร่ยาสูบ น้อยใจ รัฐช่วยล่าช้า สรรพสามิตแจงเหตุ ติดโควิด เร่งสรุปพืชทดแทน

ชาวไร่ยาสูบ น้อยใจ รัฐบาล จ่ายเงินชดเชยล่าช้า ชะลอขึ้นภาษียาสูบ ด้านสรรพสามิตชี้แจง เคาะงบชดเชยแล้ว แต่ติดโควิด รับปากเร่งหาข้อสรุปปลูกพืชทดแทน

นายประเสริฐ สงวนทรัพย์ รักษาการนายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์ จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า ต้องการขอความเป็นธรรม กรณีสมาคมชาวไร่ยาสูบฯ ได้ส่งหนังสือถึงรัฐบาล ให้ช่วยติดตามทวงถามเรื่องเงินชดเชย และการชะลอการขึ้นภาษีบุหรี่ ซึ่งล่าสุด กมธ. การเงิน-การคลังฯ ได้มีหนังสือตอบกลับว่า กรมสรรพสามิตกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาอัตราภาษีที่เหมาะสมและเป็นธรรม

ยาสูบ

ส่วนการจ่ายเงินชดเชยรายได้จากการที่เกษตรกรถูกลดโควตาฤดูกาลผลิตปี 2562/2563 นั้น กรมสรรพสามิต ได้ของบประมาณกลาง 159.59 ล้านบาท แต่ นายกรัฐมนตรี ให้ชะลอการจ่ายเงินดังกล่าวไว้ก่อน เนื่องจากภาครัฐมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รายละ 15,000 บาทแล้ว และชาวไร่ยาสูบก็อยู่ในกลุ่มที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้ว หากจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาเพิ่ม การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ต้องทำเรื่องเสนออีกครั้ง

ดังนั้น จึงเห็นว่านายกรัฐมนตรี ไม่ได้ดูแลเกษตรกรอย่างเท่าเทียมกัน โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลอนุมัติโครงการช่วยเหลือชาวสวนลำไย ชาวไร่อ้อย ชาวไร่มันสำปะหลัง โดยใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่เงินชดเชยโควตาของชาวไร่ยาสูบ ใช้งบประมาณเพียง 160 ล้านบาท และก็เป็นคนละส่วนกับเงินโควิด เหตุใดจึงจ่ายชาวไร่ยาสูบไม่ได้

“ชาวไร่ยาสูบต้องขาดรายได้ไปกว่าครึ่งหนึ่งมาสามปีติดต่อกัน เป็นผลพวงมาจากความผิดพลาดของนโยบายรัฐบาลที่ขึ้นภาษีบุหรี่มากจนเกินไป นอกจากนี้ในเรื่องพืชทดแทนที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เร่งหาก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงขอให้รัฐเร่งจ่ายเงินชดเชยที่ชาวไร่ยาสูบถูกลดโควตา และชะลอการขึ้นภาษียาสูบออกไป 2-3 ปีจนกว่าจะหาพืชทดแทนที่เหมาะสมได้”นายประเสริฐ กล่าว

ด้าน กรมสรรพสามิต ได้ชี้แจงถึงข้อเรียกร้องดังกล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ชดเชยชาวไร่ยาสูบ ในฤดูการผลิต 2561/2562 กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิต ได้ขอจัดสรรงบกลางจำนวน 133 ล้านบาท

ส่วนในฤดูกาลเพาะปลูก 2562/2563 กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการพิจารณา การชดเชยชาวไร่ยาสูบ ในฤดูกาลเพาะปลูกดังกล่าว แต่ที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้มาตรการชดเชยดังกล่าว เกิดความล่าช้าออกไป

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มีการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกร จากการแพร่ระบาดของโควิด 19 เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน คิดเป็นจำนวน 15,000 บาทต่อราย

นอกจากนี้ กรมสรรพสามิต ยังอยู่ระหว่างการศึกษาหาข้อยุติในการปลูกพืชทดแทน และหาข้อสรุป ที่จะเสนอให้มีการเยียวยาต่อเกษตรกรต่อไปในอนาคตอันสั้นนี้ โดยจะมีการประชุม คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการส่งเสริมเกษตร ให้เพาะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกยาสูบ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การยาสูบแห่งประเทศไทย เป็นต้น เข้าร่วมประชุมในวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563 นี้ เพื่อสรุปผลการหาพืชทดแทนการปลูกยาสูบอย่างเป็นรูปธรรม

ในส่วนของภาษียาสูบนั้น อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการ ปรับโครงสร้างภาษียาสูบ ให้สอดคล้องกับทิศทางการบริโภคยาสูบ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมยาสูบ โดยจะต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo