Gojek ย่างก้าวสู่ทศวรรษ 2 ชูระบบอีโค่ซิสเต็ม ร้านอาหาร หัวใจสำคัญสร้างการเติบโต เดินหน้ารวมแพลตฟอร์ม Gojek ให้เป็นหนึ่งเดียวทั่วทั้งภูมิภาค ปั้นแบรนด์ไต่ระดับโลก
Gojek (โกเจ็ก) แพลตฟอร์มเทคโนโลยีชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฉลองครบรอบการดำเนินงานปีที่ 10 พร้อมวางเป้าหมาย Gojek ย่างก้าวสู่ทศวรรษ 2 ด้วยการสร้างความสมบูรณ์ของ ระบบอีโคซิสเต็ม ที่มีร้านอาหาร และผู้ประกอบการรายย่อย เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ
อันเดร โซลิสต์โย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ Gojek เปิดเผยว่า Gojek ครบรอบสิบปี ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ทำให้ต้องทบทวนบทบาทของ โมเดลอีโคซิสเต็ม ในการทำหน้าที่เชื่อมโยงซัพพลาย เข้ากับดีมานด์ ที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ
“ปีนี้เป็นปีแห่งความท้าทาย ที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งเราสามารถยืนหยัด ผ่านสถานการณ์ทุกอย่างมาได้ และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างการเติบโตของบริการหลัก ๆ ได้ รวมทั้งทำให้ธุรกิจของทั้งกรุ๊ปมีความยั่งยืนในระยะยาว”อันเดร กล่าว
ในรอบปีที่ผ่านมา บริการต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ Gojek สามารถทำรายได้ที่น่าพึงพอใจ และยังมีการเติบโตที่ช่วยหนุนธุรกิจรายย่อย ขนาดกลาง และขนาดย่อม (MSMEs) หลายแสนรายในประเทศอินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศ ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งคนขับหลายล้านคน แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19
ความสำเร็จดังกล่าว เกิดขึ้นได้ด้วยการเน้นลงทุนในพนักงาน ในโครงสร้างพื้นฐาน และระบบออโตเมชั่น ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพ และคุณภาพของแพลตฟอร์ม ให้สูงขึ้น ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์การรับสมัครร้านอาหาร ระบบอัตโนมัติในการให้บริการลูกค้า อัลกอริทึมคำนวณราคา และระบบจับคู่ซัพพลายกับดีมานด์
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเติบโตระดับท็อบไลน์ หรือรายได้หลักที่มั่นคงมาโดยตลอด แม้จะต้องเผชิญกับภาวะโควิด-19 โดยมีมูลค่าธุรกรรมรวม (gross transaction value: GTV) ต่อปีขึ้นไปแตะระดับกว่า 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา จากผู้ใช้บริการแอคทีฟต่อเดือนกว่า 38 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้1
ขณะที่มูลค่า GTV ของธุรกิจด้านเพย์เมนต์ เติบโตขึ้นแซงหน้าระดับที่เคยทำได้ก่อนวิกฤติโควิด-19 เนื่องจากผู้บริโภคและร้านค้าต่างหันมาใช้บริการดิจิทัลกันอย่างแพร่หลาย
การเติบโตเหล่านี้ มาจากการลงทุนด้านต่าง ๆ และจากสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญในช่วงปี 2563 และในอนาคตข้างหน้า ดังต่อไปนี้
- สนับสนุนธุรกิจรายย่อย ขนาดกลาง และขนาดย่อม เข้าสู่ระบบดิจิทัล
หัวใจสำคัญของการเติบโตของ Gojek คือ ระบบอีโคซิสเต็มของร้านอาหาร ที่มีการขยายตัวถึง 80% ปัจจุบัน มีร้านอาหารอยู่ในระบบของ Gojek กว่า 900,000 ร้าน ซึ่งร้านเหล่านี้ได้ใช้แพลตฟอร์มและบริการของ Gojek เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น โดยปีก่อนหน้านี้มีร้านอาหารในระบบ 500,000 ร้าน
ปัจจัยหลักของการเติบโตนี้คือ การที่ธุรกิจรายย่อย ขนาดกลาง และขนาดย่อม หรือ MSMEs หันเข้ามาสู่ระบบดิจิทัลในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด โซลูชั่นของ Gojek ที่ครบวงจรและตอบโจทย์ทุกฝ่าย ได้ช่วยให้ร้านค้าแบบออฟไลน์ สามารถปรับตัวไปใช้ระบบดิจิทัลได้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจกลุ่ม MSMEs ในประเทศอินโดนีเซีย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะเดียวกัน ร้านอาหาร ยังคงเป็นหัวใจหลักของแผนการเติบโตของ Gojek โดยบริษัทจะมุ่งลงทุนในแพลตฟอร์มอื่น ๆ และสร้างพันธมิตรเพิ่มเติม เพื่อสร้างโอกาสในการสร้างรายเพิ่มเติมได้ต่อเนื่อง และเอื้อให้ร้านค้าสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ได้ด้วยการขายทางออนไลน์
สำหรับธุรกิจการช้อปของใช้ภายในบ้าน (grocery) หนึ่งในบริการที่ขยายเพิ่มเติมในปี 2563 เพื่อตอบรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ก็มีอัตราการเติบโตสูงถึง 500% ในแง่มูลค่า GTV ต่อปีนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19
- รวมแพลตฟอร์ม Gojek ให้เป็นหนึ่งเดียวทั่วทั้งภูมิภาค
การลงทุนในเทคโนโลยีและพนักงาน จะยังคงเป็นสิ่งที่ Gojek ให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นพื้นฐานแห่งการพัฒนาที่ต่อเนื่อง ของแพลตฟอร์ม เพื่อประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้น ทั้งสำหรับผู้บริโภค และพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจในทุก ๆ ด้าน
การลงทุนหลักอย่างหนึ่งของ Gojek ในปี 2563 คือ การรวมแพลตฟอร์มในประเทศต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และทำตลาดแบรนด์ Gojek ในหลายประเทศมากขึ้น ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ ที่ทำให้บริษัทสามารถเจาะตลาดในระดับสากล ได้อย่างรวดเร็ว ยืดหยุ่น และปรับตัวได้รวดเร็วมากขึ้น และสอดคล้องกับความมุ่งหมาย ที่ต้องการขยายธุรกิจ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์เป็นสำคัญ
เควิน อลูวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ Gojek กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายสูงสุดและมิชชั่นของ Gojek ซูเปอร์แอป ในการลดข้อจำกัดในชีวิตประจำวัน ต้องพบกับด่านทดสอบที่หินที่สุด ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะผู้คนต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้นกว่าเดิม
ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยการใช้เทคโนโลยี และโฟกัสที่ครอบคลุมประสิทธิภาพของธุรกิจ ในด้านต่าง ๆ Gojek จะเดินหน้าสร้างผลกระทบเชิงบวก ให้กับอีโคซิสเต็มของเรา และเศรษฐกิจโดยรวมต่อไป ในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า ซึ่งจากปี 2563 ที่ได้เรียนรู้บทเรียนอันยิ่งใหญ่ ทำให้เชื่อได้ว่าปี 2564 จะเป็นปีที่ดีสำหรับ Gojek และพาร์ทเนอร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- GET แปลงร่างสู่ Gojek ดึงเทคโนโลยีระดับโลก เสิร์ฟคนไทย
- ก้าวสู่ปี 2 ฟู้ดเดลิเวอรี่ไทย ‘GET’ มุ่งพัฒนานวัตกรรม หนุนเอสเอ็มอี
- เจ้าสัวธนินท์ แนะกลยุทธ์ ‘ตัวเบา’ ฟื้นท่องเที่ยว ร้านอาหาร รับยุค ท่องเที่ยวปลอดภัย