World News

‘จอร์เจีย-มิชิแกน’ เมิน ‘ทรัมป์’ ฟ้อง หยุดนับคะแนนเลือกตั้งสหรัฐ ‘ประท้วง’ ผุดหลายเมือง

 

เลือกตั้งสหรัฐ 2020 : ผู้พิพากษา รัฐจอร์เจีย กับ รัฐมิชิแกน 2 รัฐสวิงสเตท หรือ รัฐสมรภูมิ ไม่รับคำฟ้องของทีมหาเสียง “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งต้องการให้หยุดการนับคะแนนชั่วคราว โดยอ้างเรื่องความไม่โปร่งใส ขณะหลายเมืองเจอการชุมนุมทั้งจากฝั่งเชียร์เดโมแครต และรีพับลิกัน 

ผ้พิพากษาซินเธีย สตีเฟนส์ ศาลรัฐมิชิแกน ตัดสินเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น  ไม่รับคำฟ้องร้องจากทีมหาเสียงของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งต้องการให้ศาลมีคำสั่งระงับการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งชั่วคราว จนกว่าผู้สังเกตการณ์ของรีพับลิกัน จะสามารถเข้าสังเกตการณ์การนับคะแนนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าได้ใกล้ชิดกว่านี้

เลือกตั้งสหรัฐ 2020

ผู้พิพากษา ระบุว่า คำร้องดังกล่าวถูกยื่นต่อศาล ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่บัตรเลือกตั้งสุดท้ายจะถูกนับ เธอยังระบุด้วยว่า จำเลยในคำฟ้องนี้คือ นางโจเซลีน เบนสัน เลขาธิการฝ่ายกิจการรัฐของมิชิแกน ไม่ใช่คนที่ควรถูกฟ้องร้อง เนื่องจากเธอไม่ได้ควบคุมการนับคะแนนเสียงท้องถิ่น แม้จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งก็ตาม

คำฟ้องของทีมหาเสียงนายทรัมป์ กล่าวหานางเบนสัน ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตว่า ยอมให้บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าถูกนับ โดยไม่มีผู้สังเกตการณ์จาก 2 พรรค และผู้สมัครเข้าร่วม ขณะที่นางเบนสันออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการชี้ว่า นายโจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ

เช่นเดียวกับที่ รัฐจอร์เจีย ซึ่งนายทรัมป์มีคะแนนนำอยู่ แต่ถูกนายไบเดนตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ หลังเริ่มนับบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าทางไปรษณีย์ ผู้พิพากษา เจมส์ แบส แห่งศาลสูงเขตแชตแฮม ประกาศไม่รับคำฟ้องร้องจากทีมหาเสียงของนายทรัมป์ ที่เรียกร้องให้หยุดการนับคะแนนเช่นกัน หลังจากพิจารณาคดีราว 1 ชั่วโมง โดยไม่อธิบายเหตุผล

คำฟ้องร้องดังกล่าวระบุว่า ผู้สังเกตการณ์หน่วยเลือกตั้งของรีพับลิกัน เห็นบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า 53 ใบ ที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างเหมาะสมจำนวน 53 ใบ ถูกผสมเข้าไปอยู่ในกองบัตร ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการนับเป็นคะแนน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คณะกรรมการเลือกตั้งของเขตแชตแฮม ยืนยันว่า บัตรทั้ง 53 ใบ ถูกส่งมาถึงหน่วยนับคะแนนภายในเวลาที่กำหนด

ทรัมป์ขู่ฟ้องศาลตรวจสอบทุกรัฐไบเดนคว้าชัย

ทางด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตข้อความ ระบุว่า เขาจะยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อให้มีการตรวจสอบผลการนับคะแนนในทุกรัฐ ที่นายไบเดน ได้รับชัยชนะ เนื่องจากมีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น

“เราจะฟ้องศาลเพื่อให้มีการตรวจสอบทุกรัฐที่นายไบเดนอ้างชัยชนะ เนื่องจากมีการโกงการเลือกตั้งจากทั้งผู้ลงคะแนน และจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ”

อย่างไรก็ดี ทรัมป์ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่า การโกงเลือกตั้งดังกล่าวได้เกิดขึ้นในรัฐใด และไม่ได้ยกตัวอย่างการทุจริตที่เกิดขึ้น

การทวีตดังกล่าว ยังมีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความ แสดงความงงงวยต่อการตีตื้นขึ้นมาของคะแนนเสียงของนายไบเดน

“เมื่อคืนนี้ คะแนนเสียงของผมกำลังนำอยู่ในหลายรัฐที่สำคัญ โดยเกือบทั้งหมดเป็นรัฐที่พรรคเดโมแครตเคยชนะการเลือกตั้ง แต่แล้วคะแนนเสียงที่ผมเคยนำอยู่ ก็ได้เริ่มหายไปทีละรัฐอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ขณะที่มีการนับบัตรเลือกตั้งที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก”

กระนั้นก็ตาม สื่อชี้ให้เห็นว่า ทรัมป์ได้กล่าวอ้างอย่างผิดๆ ในข้อความที่มีการทวีตดังกล่าว เนื่องจากการที่นายไบเดนมีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนีย และมิชิแกน มีสาเหตุจากการที่เจ้าหน้าที่ได้เริ่มนับคะแนนจากบัตรเลือกตั้ง ที่ส่งทางไปรษณีย์ หลังจากที่ได้เสร็จสิ้นการนับคะแนนบัตรเลือกตั้ง ของผู้ที่มาหย่อนบัตรในคูหา

ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งซึ่งสนับสนุนพรรคเดโมแครต มักนิยมลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ ส่วนผู้ที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันนิยมไปลงคะแนนที่คูหาเลือกตั้ง

เลือกตั้งสหรัฐ 2020

หลายเมืองเจอประท้วง เลือกตั้งสหรัฐ 2020

สภาพการณ์ทางการเมืองของสหรัฐฯ ในระหว่างช่วงการนับคะแนนที่ยาวนานเริ่มทวีความตึงเครียด เนื่องจากมีกลุ่มผู้ประท้วงหลายฝ่ายปรากฏตัวขึ้นตามท้องถนนและสถานที่นับคะแนนในหลายรัฐ

ที่รัฐแอริโซนา กลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน มารวมตัวกันนอกศูนย์นับคะแนนแห่งหนึ่ง เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ให้อนุญาตให้พวกเขา เข้าไปจับตาดูการนับคะแนนอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าจะมีการโกงโดยพยายามไม่นับคะแนนที่เลือกทรัมป์รวมเข้าไปด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการชุมนุมต่อต้านทรัมป์ที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการนับคะแนนของผู้ใช้สิทธิ์ออกเสียงอย่างครบถ้วน โดยไม่ปฏิบัติตามความต้องการของทรัมป์ ที่จะให้ศาลสั่งหยุดนับคะแนนในหลายรัฐ

ส่วนที่เมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา รวมทั้งที่นครนิวยอร์ก เมืองฟิลาเดลเฟีย และนครชิคาโก ก็มีการประท้วงแบบเดียวกันเกิดขึ้นด้วย โดยตำรวจเข้าจับกุมผู้ประท้วงราว 200 คนที่ปิดกั้นถนน และบางคนก่อเหตุทุบกระจกร้านค้า

ความขัดแย้งในหมู่พลเมืองอเมริกัน รวมทั้งการที่ทรัมป์แสดงท่าทีว่าจะไม่ยอมแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ สร้างความหวั่นเกรงว่าจะเกิดวิกฤติทางการเมือง และอาจเกิดความวุ่นวายในการถ่ายโอนอำนาจไปยังประธานาธิบดีคนใหม่ได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo