World News

เลือกตั้งสหรัฐ: ‘ซิลิคอน วัลเลย์’ อ้าแขนรับ ‘โจ ไบเดน’ พลิกอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

อเมริกาและทั่วโลกต่างลุ้นระทึกผล เลือกตั้งสหรัฐ ครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่างโดนัล ทรัมป์ และโจ ไบเดน คู่ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีที่แตกต่างกันสุดขั้ว โดยล่าสุด “โจ ไบเดน” กำลังจะคว้าชัยในการเลือกตั้ง 2020 รอแต่เพียงการประกาศผลอย่างเป็นทางการเท่านั้น

แน่นอนว่า ภาคธุรกิจต้องจับตาการแข่งขันครั้งนี้ชนิดตาไม่กะพริบ โดยเฉพาะใน “ซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley)” ศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของอเมริกา

ซินลิคอนวัลเลย์1

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Big Tech) ก็เหมือนกับบริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ ในอเมริกา ที่ได้รับประโยชน์จากการตัดลดภาษีนิติบุคคลภายใต้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ในหลายกรณี การจ่ายภาษีในอัตราที่น้อยกว่าช่วยเพิ่มผลกำไรให้บริษัท อย่างไรก็ตาม นโยบายและการกระทำหลายอย่างของรัฐบาลทรัมป์ในสมัยแรกก็ไม่ได้ส่งผลดีกับบรรดาบริษัทเทคโนโลยี

ประเด็นแรก รัฐบาลทรัมป์เปิดสงครามการค้า (Trade War) กับประเทศจีน สร้างความไม่แน่นอนให้สายการผลิต (Supply Chain) ด้านเทคโนโลยี ทรัมป์ยังได้จำกัดโปรแกรมการออกวีซ่าสำหรับตำแหน่งงานที่มีความสำคัญ ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติที่มีทักษะในการทำธุรกิจ

ระหว่างที่ทรัมป์อยู่ในทำเนียบขาว กระทรวงยุติธรรมยังได้สอบสวนบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ถึงความเป็นไปได้ในการฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ล่าสุดรัฐบาลอเมริกายังได้ยื่นฟ้องกูเกิ้ล (Google) เสิร์ชเอนจิ้นยักษ์ใหญ่ในข้อหามีพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขัน รวมถึงทรัมป์ได้กล่าวหาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเรื่องการเซ็นเซอร์และอคติมาโดยตลอด

แม้ปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้หยุดยั้งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทเทคโนโลยีตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยแอปเปิ้ล (Apple) อเมซอน (Amazon) ไมโครซอร์ฟ (Microsoft) กูเกิ้ล เฟซบุ๊ก  (Facebook) เทสลา (Tesla) และเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) สะสมความมั่งคงรวมกันเกือบ 8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นจาก 2.4 ล้านล้านเหรียญในการเลือกตั้งปี 2016 แต่บรรดาผู้นำในอุตสาหกรรมก็ยังกระตือรือร้นที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลง

“ฉันคิดว่า เราต้องแยกความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นออกจากความท้าทายในของบริษัท” นักวิเคราะห์กล่าว

fig 27 10 2020 16 28 56

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงภายใต้รัฐบาลทรัมป์ที่เป็นภัยคุกคามต่อความสำเร็จของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่คือ อเมริกาได้เปลี่ยนแปลง “จุดยืนบนโลก”

ซิลิคอน วัลเลย์ ประกันความสำเร็จเพราะทุกคนอยากจะมาที่นี่ คนที่ดีที่สุดและฉลาดที่สุดจากทั่วโลกมาที่นี่เพื่อเรียนหนังสือหรือทำงานที่บริษัทต่างๆ เขาใช้ชีวิตและสร้างบริษัทของตัวเอง แต่ในปัจจุบัน นอกจากจะเกิดความท้าทายสำหรับผู้อพยพแล้ว ยังมีความกังวลว่าอเมริกาและซิลิคอน วัลเลย์ อาจจะไม่สามารถรักษาทำงานในระดับแถวหน้าของโลกได้ในอนาคต

สิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจเปลี่ยนไปถ้าหากโจ ไบเดน ชนะการ เลือกตั้งสหรัฐ

จากการสำรวจของ CNNพบว่า พนักงานในบริษัทเทคโนโลยีส่วนใหญ่สนับสนุนโจ ไบเดน โดย พนักงานของอเมซอน กูเกิ้ล เฟซบุ๊ก และแอปเปิ้ล บริจาคเงินให้แคมเปญรณรงค์หาเสียงของไบเดนในเดือนกรกฎาคม 2563 มากกว่าของทรัมป์ถึง 3 เท่า

นอกจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่แล้ว ผู้นำของบริษัทอเมริกาจำนวนมากยังบอกว่า พวกเขาชอบโจ ไบเดนมากกว่า เพราะการกระทำของไบเดนสามารถคาดเดาได้มากกว่าทรัมป์ แม้ว่าหากไบเดนได้เป็นประธานาธิบดี อาจนำไปสู่การเพิ่มภาษีนิติบุคคลและเพิ่มกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดก็ตาม

เลือกตั้งสหรัฐ โจ ไบเดน

ประวัติ “โจ ไบเดน” คว้าชัยผู้ เลือกตั้งสหรัฐ

“โจ ไบเดน” หรือ “โจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดน จูเนียร์” ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา จัดได้ว่า เป็นผู้ที่สร้างประวัติศาสตร์ และสถิติหลายต่อหลายครั้งให้กับแวดวงการเมืองอเมริกัน 

นักการเมืองชาวอเมริกัน สังกัด พรรคเดโมแครต รายนี้ เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ระหว่างปี  2552-2560 เป็นสมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเดลาแวร์เจ็ดสมัยติดต่อกัน ระหว่างปี 2515 – 2552

ไบเดนเกิดที่เมืองสแครนตัน ในรัฐเพนซิลเวเนีย และอาศัยอยู่ที่เมืองนี้จนอายุได้ 10 ปี จึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองเดลาแวร์ จนถึงทุกวันนี้  โดยเขาประกอบอาชีพเป็นทนายความตั้งแต่ปี 2512 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะลูกขุนเมื่อปี 2513

ปี 2515 ไบเดน ก้าวเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองเป็นครั้งแรก จากการลงเลือกตั้งวุฒิสมาชิก  ซึ่งเมื่อคว้าชัยชนะมาได้ เขาก็กลายเป็น สมาชิกวุฒิสภาที่มีอายุน้อยสุดเป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ

จากนั้น เขาก็ชนะการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2521, 2527, 2533, 2539 และ 2545 นับว่าเป็น สมาชิกวุฒิสภาที่ครองตำแหน่งมานานที่สุดเป็นอันดับ 6 ในประวัติศาสตร์อเมริกันอีกด้วย

เลือกตั้งสหรัฐ

ไบเดนเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศมายาวนาน จนได้เป็นประธานของคณะกรรมการชุดนี้ ศิลปะการเจรจาของเขา เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลือทางการทหาร และการเข้าแทรกแซงในสงครามบอสเนียของสหรัฐ

เขาออกเสียงสนับสนุนนโยบายการแก้ปัญหาสงครามอิรัก แต่ต่อมาได้ประกาศจุดยืนว่า อยากให้เปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ดังกล่าว

ไบเดนยังได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการศาลยุติธรรม สำหรับสมาชิกวุฒิสภาด้วย โดยมีบทบาทในเรื่องยาเสพติด อาชญากรรม การป้องกันภัย และสิทธิพลเมือง ทั้งยังเป็นแกนนำ เสนอกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาชญากรรมการใช้ความรุนแรง และการบีบบังคับ และกฎหมายว่าด้วยการคุกคามสตรี

เมื่อปี 2531 และ 2551 ไบเดน เคยลงสมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งสองครั้ง แต่ในปี 2551 บารัก โอบามา ผู้สมัครที่ได้ตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครต ตัดสินใจเลือกเขา เป็นคู่สมัคร ลงเลือกตั้งประธานาธิบดี และได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี

เลือกตั้งสหรัฐ โจ ไบเดน

สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2563 นี้ ไบเดน เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการชิงงชัยตำแหน่งผู้นำอเมริกัน โดยเขาได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้กับการเมืองอเมริกันอีกครั้ง จากการเลือกนางคามาลา แฮร์ริส เป็นคู่หูในตำแหน่งรองประธานาธิบดี  ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงเชื้อสายเอเชียรายแรก ที่ได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้

ถ้าหาก ไบเดน ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ เขาก็จะสร้างประวัติศาสตร์  เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะขึ้นครองตำแหน่ง ในวัย 77 ปี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo