วิกฤติซ้ำซ้อน! รัฐบาลเลบานอนสั่ง “ปิดประเทศอย่างสมบูรณ์” หลังยอดป่วย “โควิด” พุ่งพรวด 421 รายในวันเดียว ด้าน “บราซิล” คาด GDP ไตรมาส 2 หดตัว 10%
เมื่อวานนี้ (18 ส.ค. 63) กระทรวงสาธารณสุขของประเทศเลบานอน รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่ม 421 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 2 รายรวม ดันยอดสะสมรวมอยู่ที่ 9,758 ราย และ 107 ราย ตามลำดับ
ด้านกระทรวงกิจการภายในของเลบานอนประกาศในวันเดียวกันว่า จะดำเนินมาตรการ “ปิดประเทศอย่างสมบูรณ์” เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์นี้ (21 ส.ค. 63) เป็นต้นไป
โดยจะมีการปิดสถาบันการค้าตลอดระยะเวลาดังกล่าว ขณะเดียวกันจะเริ่มประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลากลางคืนตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นไปด้วย
ฮาหมัด ฮัสซัน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การตัดสินใจปิดประเทศเป็นผลมาจากจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันที่เพิ่มสูง จนสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อภาคสาธารณสุขของประเทศ พร้อมเสริมว่าท่าอากาศยานในประเทศจะยังคงเปิดดำเนินงานต่อไป
ทั้งนี้ เลบานอนเริ่มต่อสู้กับโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 โดยได้รับเงินบริจาคจำนวนมากจากนานาประเทศเพื่อสนับสนุนภารกิจรับมือโรคระบาด
นอกจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 แล้ว เลบานอนยังมีปัญหารุมเร้าประเทศอีกหลายด้าน เช่น ปัญหาขาดแคลนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์เลบานอนอ่อนค่าลง อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง รวมถึงเหตุระเบิดใหญ่ 2 ครั้งที่ท่าเรือเบรุต เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่าขั้นต่ำราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 4.6 แสนล้านบาท
โควิด “อินเดีย” เพิ่มสูงสุด พบกว่า 64,000 รายในวันเดียว
ด้านกระทรวงสาธารณสุขกลางของอินเดียรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบวันเพิ่มขึ้นสูงสุด ด้วยจำนวน 64,531 รายในวันนี้ (19 ส.ค. 63) ส่งผลให้อินเดียมีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 2,767,273 ราย
รายงานเผยยอดผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 52,889 ราย หลังพบเพิ่ม 1,092 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ปัจจุบันอินเดียมีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาตัวจำนวน 676,514 ราย ขณะที่ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลได้แล้วอยู่ที่ 2,037,870 ราย
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียมุ่งเน้นการขยายขีดความสามารถในการตรวจโรคโควิด-19 ด้านรายงานของสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR) รายงานว่า อินเดียตรวจโรคแล้วทั้งสิ้น 31,742,782 ครั้ง เมื่อนับถึงวันอังคารที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันที่มีการตรวจโรค 801,518 ครั้ง
“บราซิล” คาด GDP ไตรมาส 2 หดตัว 8-10%
เมื่อวานกระทรวงสาธารณสุขของบราซิล ประกาศการตรวจพบผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เพิ่ม 1,352 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตในประเทศรวมอยู่ที่ 109,888 ราย
ช่วงเวลาเดียวกัน บราซิลตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 47,784 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยในประเทศสะสมอยู่ 3,407,354 ราย โดยบราซิลเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 หนักที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐเท่านั้น
สำนักเลขาธิการนโยบายเศรษฐกิจ สังกัดกระทรวงเศรษฐกิจของบราซิล เปิดเผยการคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของบราซิล จะลดลง 8-10% ในไตรมาส 2 ของปี 2563 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก
รายงานจากสำนักฯ ระบุว่า หากการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริง การลดลงของ GDP จะทำให้บราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในลาตินอเมริกา เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค หลัง GDP หดตัว 1.5% ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2563
อย่างไรก็ดี ผล GDP อย่างเป็นทางการของไตรมาส 2 จะถูกเผยแพร่โดย สถาบันภูมิศาสตร์และสถิติของบราซิล (IBGE) ในวันที่ 1 กันยายน 2563 นี้
สำนักฯ ระบุว่า การลดลงของ GDP ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 “สะท้อนวิกฤตที่เกิดจากการหยุดชะงักของกิจกรรมทางการค้าและสังคม” ขณะที่รัฐบาลบราซิลคาดการณ์ว่า GDP ของประเทศจะลดลง 4.7% ในปี 2563 ส่วนตลาดการเงินจะหดตัว 5.52%
รายงานเสริมว่าบราซิลใช้จ่ายมากขึ้นในด้านอัตราร้อยละของ GDP เพื่อรับมือกับวิกฤติโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ หรือแม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้ว
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หุ้นบ่ายดิ่งแรง! ปรับร่วงเฉียด 24 จุดหลังพบผู้ติดโควิดในประเทศ
- จีนจดสิทธิบัตร ‘วัคซีนโควิด-19’ ฉบับแรก ฟุ้ง! สามารถผลิตได้ปริมาณมาก
- ‘หมอ’ 2,000 คนได้ผลกระทบจาก ‘ระเบิดเลบานอน’ ทยอยย้ายออกจากประเทศ
