ราคาน้ำมันดิบ ซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ (18 พ.ค.) ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน แรงหนุนจากการลดเพดานผลิตอบย่างต่อเนื่อง และสัญญาณถึงการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในความต้องการน้ำมันโลก จากการที่ประเทศจำนวนมากขึ้นเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ที่นำมาบังคับใช้ เพื่อควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ราคาน้่ำมันดิบเบรนท์ ไต่ระดับขึ้นมา 1.34 ดอลลาร์ หรือ 4.1% มาอยู่ที่ 33.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ที่ 30.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมเป็นต้นมา
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ราคาน้ำมันอาจจะแกว่งตัวสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จากการที่ประเทศต่างๆ พากันผ่อนคลายมาตรการ ยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางมากขึ้นเรื่อยๆ
สัญญาซื้อขายน้ำมันสำหรับเดือนมิถุนายน จะหมดอายุลงในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) ซึ่งมีแนวโน้มว่า นักลงทุนได้ปรับตัวรับกับความผันผวนของราคาไปแล้ว หลังจากที่เจอกับราคาที่ร่วงลงไปอยู่ในระดับต่ำกว่า 0 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา จึงมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันต่อจากนี้ จะแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบๆ เท่านั้น
นักลงทุนยังมีความรู้สึกในด้านบวกมากขึ้น จากการที่ซาอุดีอาระเบีย แกนนำกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ระบุว่า จะลดเพดานผลิตน้ำมันเพิ่มเป็นพิเศษอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายนนี้ โดยที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และคูเวต ก็ส่งสัญญาณว่า จะลดกำลังผลิตมากกว่าที่ตกลงกันไว้
- ‘โอเปค’ หั่นคาดการณ์ ‘ความต้องการน้ำมัน’ ปี 63 กดราคาร่วง
- ทั่วโลกพร้อมใจลดผลิต ดัน ‘ราคาน้ำมัน’ แตะ 20 ดอลลาร์
- ลดวูบ! ปี 63 การใช้น้ำมันสำเร็จรูป ลด 6.3% น้ำมันเครื่องบิน ลดมากสุด 12.7%
